Tense
Present simple, continuous, perfect
GAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : gerund and participle
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : since, for
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การผันกริยา 3 ช่อง
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Used to
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Past simple, continuous, perfect : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Future Tense (will and be going to) : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Comparison of tenses
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย

Indirect question (reported speech - whether)

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

Indirect question (reported speech - whether) (ชุดที่ 1)

HARD

Indirect question (reported speech - whether) (ชุดที่ 2)

เนื้อหา

INDIRECT QUESTION

คำถามในภาษาอังกฤษที่เราเจอกันทั่ว ๆ ไปอย่าง What are you doing now? แบบนี้เราเรียกว่า Direct Question คือถามตรง ๆ ตรงไปตรงมา อยากถาม คือถามเลย

แต่เราจะมีอีกคำถามอีกประเภทคือ Indirect Question ซึ่งจะเป็นการถามแบบทางการและสุภาพขึ้นกว่า Direct Question โดยมักจะมีคำพูดหรือวลีอื่น ๆ ขึ้นมานำหน้าประโยคคำถามก่อน เช่น

  • I want to know...
  • I would like to know...
  • I don’t know...
  • Do you know...
  • Could you tell me...
  • I wonder...
  • Please tell me...

ซึ่งเราจะเอาประโยคคำถาม direct มาต่อท้าย แต่จะไม่ต่อแบบธรรมดา เราจะต้องเรียงใหม่ให้เป็น S + V ตามรูปแบบประโยคบอกเล่า และจะไม่ใส่เครื่องหมายปรัศนีย์ (?) หากเป็นการถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เช่น I wonder..

ก่อนอื่นเรามารู้จัก direct question ว่าปกติมีอยู่ 2 แบบ

1. ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย WH-questions (Who, What, When, Where, Why, How)

เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นข้อมูล รายละเอียด เช่น Where are you from?

หากเป็นประโยคคำถามแบบ WH-questions เมื่อเราขึ้นต้นด้วยวลีที่ทำให้เป็น Indirect question แล้วนั้น ให้เรียงประโยคคำถามด้านหลังให้เป็นแบบ S + V หรือเป็นแบบประโยคบอกเล่า ดังนี้

  • What is your name? → I wonder what your name is.
  • How can you go there?  → Please tell me how you can go there.

จะเห็นว่า is และ can ถูกเปลี่ยนที่ไปอยู่หลังประธาน ไม่ว่าจะเป็น your name หรือ you

ดังนั้น หากมี v. to be (is, am, are, was, were, be) หรือ modal verb (will, would shall, should, may, might, can, could) ให้สลับตำแหน่งกับประธาน

What time is it now? → I don’t know what time it is now.
(ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว? ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาอะไรแล้ว)

หากในประโยคคำถามมี do ให้ตัด do ทิ้งได้เลย

What do you mean? → I wonder what you mean
(นายหมายความว่ายังไร? ฉันกำลังคิดอยู่ว่านายหมายความยังไง)

หากในประโยคคำถามมี did ให้ตัด did ทิ้ง และเปลี่ยน V. หลังประธานให้เป็น V. past tense (V2)

What did you hear about Susan? → Could you tell me what you heard about Susan?
(คุณไปได้ยินอะไรมาเกี่ยวกับซูซาน? บอกฉันทีว่านายไปรู้อะไรเกี่ยวกับซูซานมา?)

หากในประโยคมี does ให้ตัด does ทิ้ง แล้วเปลี่ยน V. หลังประธานเป็น V. เอกพจน์ (เติม s / es)

Where does Gigi work as a secretary? → Do you know where Gigi works as a secretary?
(จีจี้ทำงานเป็นเลขาที่ไหน? นายพอจะรู้ไหมว่าจีจี้ไปเป็นเลขาที่ไหน)

2. ประโยคคำถามแบบ Yes / No Questions

คือ คำถามที่ต้องการคำตอบว่า yes / no โดยคำถามพวกนี้ขึ้นต้นด้วยอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ wh เช่น Can you speak English?

หากเป็นประโยคแบบ yes / no questions นั้นจะไม่มีพวก who what when where why how ประโยคแบบ yes no จึงต้องมี whether และ if เข้ามาแทน

  • Are you kidding me? → I wonder if / whether you are kidding me.
  • Will you tell me your reason? → I want to know if/ whether you will tell me your reason.

จะเห็นว่าเมื่อไม่มี wh words เราจึงต้องเติมคำเชื้่อมเข้าไป จึงใช้ if หรือ whether ก็ได้ แล้วประโยคด้านหลังก็ทำเป็นประโยคบอกเล่า S + V เช่นเดียวกับแบบแรกและจะเห็นว่า are และ will ถูกเปลี่ยนไปอยู่หลังประธาน you

ดังนั้น หากมี V. to be (is, am, are, was, were, be) หรือ modal verb (will, would shall, should, may, might, can, could) ให้สลับตำแหน่งกับประธาน

Is that my phone? → Please tell me if / whether that is my phone.
(นั่นโทรศัพท์ฉันใช่ไหม? → ได้โปรดบอกฉันทีว่านั่นคือโทรศัพท์ของฉัน)

หลังจากเติม if / whether และ หากในประโยคคำถามมี do ให้ตัด do ทิ้งได้เลย

Do you play table tennis? → I wonder if / whether you play tennis.  
(นายเล่นปิงปองรึเปล่า? → ฉันกำลังคิดว่านายเล่นปิงปองหรือไม่)

หลังจากเติม if / whether หากในประโยคมี does ให้ตัด does ทิ้ง แล้วเปลี่ยน V. หลังประธานเป็น V. เอกพจน์ (เติม s / es)

Does she speak Japanese? → Could you tell me if / whether she speaks Japanese?
(เธอพูดภาษาญี่ปุ่นรึเปล่า? → นายบอกฉันทีว่าเธอพูดภาษาญี่ปุ่นหรือไม่?)

หลังจากเติม if / whether และหากในประโยคคำถามมี did ให้ตัด did ทิ้ง และเปลี่ยน V. หลังประธานให้เป็น V. past tense (V2)

Did you go to school yesterday? → I would like to know if / whether you went to school yesterday.
(เธอไม่โรงเรียนมารึเปล่าเมื่อวานนี้? → ฉันอยากจะรู้ว่าเธอไปโรงเรียนรึเปล่า)


ทีมผู้จัดทำ