Tense
Present simple, continuous, perfect
GAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : gerund and participle
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : since, for
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การผันกริยา 3 ช่อง
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Used to
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Past simple, continuous, perfect : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Future Tense (will and be going to) : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Comparison of tenses
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

seem and sound (ชุดที่ 1)

MEDIUM

seem and sound (ชุดที่ 2)

HARD

seem and sound (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

Linking Verbs : SEEM and SOUND

กริยาที่เป็น Linking verb นั้น นอกจาก Verb to be ที่ตามด้วยคำคุณศัพท์แล้ว ยังมีคำกริยาที่สามารถตามด้วยคำคุณศัพท์ เพื่อใช้อธิบาย หรือบอกสภาพของสิ่งต่าง ๆ ได้

 แบบที่ 1 : Subject + (Linking) Verb + Adjective

โดยคำกริยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ appear, prove, become, remain, consider, seem, smell, grow, sound, keep, taste, look, turn เช่น       

Siri looks uncomfortable in that dress.
(ศิริดูไม่ค่อยสบายในชุดเดรสนั้น)
Sam keeps quiet when he is in the meeting.
(แซมทำตัวเงียบเมื่ออยู่ในการประชุม)
แบบที่ 2 : Subject + (Linking) Verb + Object + Adjective

ใช้บรรยาย หรือ บอกคุณลักษณะของกรรม โดยใช้คำคุณศัพท์ (Adjectives) กริยาที่ใช้รูปแบบนี้ ได้แก่ believe, keep, consider, leave, find, like, have, think, make, hold เช่น

John considered this job interesting.
(จอห์นเล็งเห็นว่างานนี้น่าสนใจ)
found the drink tasty.
(ฉันพบว่าเครื่องดื่มนั้นมีรสชาติที่อร่อย)

SEEM

ใช้เมื่อเกิดจากความรู้สึกทั่วไป ที่ทำหน้าที่เป็น linking verb มักจะตามด้วยคำคุณศัพท์ เช่น

Sue seems angry about something.
(ซูดูเหมือนจะโกรธเกี่ยวกับเรื่องอะไรซักอย่าง)

seem และ seem to be

บางครั้ง เราจะเห็นว่า seem จะตามด้วยคำว่า to be ในบางประโยค เช่น

She doesn’t seems to be ready yet.
(เธอดูเหมือนจะยังไม่พร้อมนะ)

ข้อแตกต่างระหว่าง seem และ seem to be คือ

  • Seem จะตามด้วย adjective และใช้แสดงความรู้สึก หรือ ความคิดเห็นของผู้พูด
She seems excited.
(เธอดูเหมือนว่าจะตื่นเต้นนะ)
เป็นการแสดงความคิดเห็นของผู้พูดว่า ผู้พูดคิดว่าหล่อนดูเหมือนตื่นเต้น
  • Seem to be จะตามด้วย adjective เหมือนกัน แต่จะใช้เพื่อบอกความจริงตามที่เป็น โดยไม่มีเรื่องความคิดเห็นหรือความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง
The bus seems to be full.
(รถบัสนั้นดูเหมือนจะเต็มแล้ว)
เป็นการบอกเล่าตามความจริงว่ารถบัสนั้นดูเต็มแล้ว ไม่น่าจะมีที่ว่าง

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างทั้งสองกรณีนี้ ไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ตายตัว สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสองรูปแบบ


SOUND

ใช้เมื่อเกิดจากความรู้สึกทางเสียง ทำหน้าที่เป็น linking verb จะตามด้วยคำคุณศัพท์เท่านั้นเช่นกัน แต่ที่เพิ่มเติมคือสามารถตามด้วยคำว่า like หรือ as if / though ได้ เช่น

That sounds like Sue coming to the kitchen.
(นั่นฟังดูเหมือนซูกำลังเดินเข้ามาในห้องครัว)
It sounds as if she has had a hard day.
(มันฟังดูราวกับว่าเธอไปเจอวันที่หนักเข้ามา)
It sounds as though he is hiding something.
(มันฟังดูราวกับว่าเขากำลังปกปิดอะไรบางอย่าง)
คำว่า like ใช้เมื่อมีความคล้ายกับสิ่ง ๆ หนึ่ง ส่วน as if / though ใช้เพื่อเปรียบเทียบ (ราวกับว่า...) ซึ่งคำเหล่านี้สามารถประยุกต์ใช้ตามหลัง linking verb บางคำได้ เพียงแต่ต้องดูว่าเมื่อไหร่ควรหรือไม่ควรใช้