Punctuation คือ เครื่องหมายวรรคตอน ซึ่งในภาษาอังกฤษนั้นสำคัญมาก ๆ เพราะหากใช้ผิด อาจทำให้ความหมายของประโยคนั้น ๆ เปลี่ยนไปได้ และเพราะในภาษาไทยไม่มีการใช้เยอะเท่าภาษาอังกฤษ เราจึงควรเรียนรู้การใช้ Punctuation ให้เหมาะสมกับประโยคภาษาอังกฤษ
เครื่องหมายวรรคตอนหลัก ๆ ในภาษาอังกฤษ มีดังต่อไปนี้
- ใช้เมื่อจบประโยคเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ เช่น
She is a student.
(หล่อนเป็นนักเรียน)
- ใช้กับคำย่อต่าง ๆ เช่น
Dr. Shepherd, Sgt. Muller, Mrs. White, etc.
(คุณหมอเช็พเพิร์ด, จ่ามูเลอร์, คุณนาย / นางไวท์)
- มีคำนามหลายตัว *ถ้าเขียนแบบ UK องค์ประกอบสุดท้ายไม่ต้องใส่ comma ก่อน and เช่น
I like apples, bananas, and oranges.
(ผมชอบแอปเปิ้ล กล้วย และส้ม)
- เพื่อคั่นประโยคหลักกับประโยคย่อยหรือวลี เช่น
To this day, I'm still trying to find true love.
(จนทุกวันนี้ ฉันก็ยังคงตามหารักแท้)
- ใช้แบ่งประโยคสองประโยคที่เชื่อมด้วยคำสันธานหรือคำเชื่อมอื่น ๆ เช่น
She likes dogs, but he hates them.
(หล่อนชอบสุนัข แต่เขาเกลียดพวกมัน)
- ใช้ในการขยายความประโยคก่อนหน้า หรือแยกแยะองค์ประกอบหรือการยกตัวอย่างของประโยคก่อนหน้า เช่น
To apply the job, you need to you need to prepare documents: a resume, a transcript, photos and recommendation letters.
(คุณจะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ : ประวัติส่วนตัว ใบผลการเรียน รูปถ่าย และจดหมายรับรอง)
Being able to speak a third language is enormously advantageous for getting a job: a third language will open the door to a broader career path.
(การที่พูดภาษาที่สามได้นั้นเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งในการสมัครงาน เพราะภาษาที่สามจะช่วยเปิดประตูไปสู่สายงานต่าง ๆ ที่กว้างขึ้น)
- ใช้แทน comma (,) ในกรณีที่ใช้ซ้ำซ้อน เช่น
This group consists of 2nd year students: John, Helen, and Sarah ; and 3rd year student: Laura, Ken, and Emily.
(กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คือ จอร์น, เฮเลน, และซาร่า แล้วก็นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คือ ลอวร่า, เคน, และเอมิลี่)
- ใช้แทนคำเชื่อม but หรือคำเชื่อมอื่น ๆ (transition word) เช่น therefore, in addition, however, etc. เช่น
I work as a translator for my company; in addition, I am an interpreter translating the conversation during the meeting.
(ฉันทำงานเป็นนักแปลให้กับบริษัทของฉัน นอกจากนี้ ฉันยังเป็นล่ามแปลภาษาของบทสนทนาระหว่างการประชุมด้วย)
- ใช้แทรกข้อมูลที่สำคัญ หรือเพื่อเสริมความเข้าใจ เช่น
I am concerning about my topic research—Cancer in Children—whether or not it is appropriate.
(ฉันกำลังกังวลเกี่ยวกับหัวข้อวิจัยของฉัน นั่นก็คือมะเร็งในเด็ก ว่ามันเหมาะสมหรือไม่)
- เชื่อมคำวิเศษณ์ที่ติดต่อกันหลายคำ เช่น
She is a beautiful-charming-Chinese woman.
(หล่อนเป็นผู้หญิงชาวจีนที่สวยและมีเสน่ห์)
- แสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม เช่น
That is Sarah’s cat.
(นั่นคือแมวของซาร่า)
- ใช้เพื่อย่อ auxiliary verb (can, could, would etc.) และ verb to be
He's an engineer. ('s = is)
(เขาคือวิศวกร)