Tense
Present simple, continuous, perfect
GAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : gerund and participle
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : since, for
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การผันกริยา 3 ช่อง
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Used to
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Past simple, continuous, perfect : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Future Tense (will and be going to) : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Comparison of tenses
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

Preposition of time/place (ชุดที่ 1)

MEDIUM

Preposition of time/place (ชุดที่ 2)

HARD

Preposition of time/place (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

PREPOSITION

คือคำบุพบท เป็นคำบอกตำแหน่งนั่นเอง โดยจุดเด่นหลัก ๆ สำคัญ ของ Preposition นั้นจะต้องตามด้วย คำนาม หรือ กลุ่มคำนามเสมอ มี 2 ประเภทดังนี้

1. Preposition of Time

คือ คำบุพบทบอกเวลา มีดังต่อไปนี้

1. AT

  1. ใช้กับเวลาที่เจาะจง, เวลาของนาฬิกา
    [at + clock time]
    He will arrive here at 6 o’clock.
    (เขาจะมาถึงที่นี่ตอน 6 โมงตรง)
  2. ใช้กับมื้ออาหาร
    [at + meal time]
    Jane will show up at dinner time.
    (เจนจะโผล่มาตอนมื้อเย็น)
  3. ใช้กับเทศกาลต่าง ๆ
    [at + holidays]
    There will be a new chapter of this comic at Christmas.
    (เดี๋ยวตอนใหม่ของการ์ตูนเล่มนี้จะมาช่วงคริสต์มาส)

    *แต่ ใช้ on เมื่อเป็นวันสำคัญเฉพาะ เช่น Christmas Day, New Year Day

    There will be a new chapter of this comic on Christmas Day
    (เดี๋ยวตอนใหม่ของการ์ตูนเล่มนี้จะมาในวันคริสต์มาส)
  4. ใช้กับสำนวนต่อไปนี้
    • at night (กลางคืน)
    • at noon (กลางวัน)
    • at dawn (รุ่งเช้า)
    • at sunset (พระอาทิตย์ตก)
    • at the weekend (สุดสัปดาห์)
    • at the beginning (จุดเริ่มต้น)
    • at the end (จุดสิ้นสุด)
    • at the moment (ในขณะนี้)
    • at present (ตอนนี้)
    • at the same time (พร้อม ๆ กัน)
    • เช่น
      The moon appears at night.
      (พระจันทร์จะปรากฎตอนกลางคืน)
      sometimes, the sun and the moon appears at the same time. 
      (ในบางครั้ง พระอาทิตย์และพระจันทร์ก็ปรากฎพร้อม ๆ กัน)

2. ON

  1. ใช้กับวันในสัปดาห์
    Mr. Pumpkin goes to work on Saturday.
    (คุณฟักทองไปทำงานวันเสาร์)
  2. ใช้กับวันที่
    Mr. Tomato will go seeing the dentist on 9th September.
    (คุณมะเขือเทศจะไปพบหมอฟันในวันที่ 9 ของเดือนกันยายน)
  3. ใช้กับช่วงเวลาของวันได้ แต่จำเป็นต้องมีวันในสัปดาห์อยู่ในประโยคด้วย
    The meeting of the council will be started on Tuesday afternoon.
    (การประชุมของสภาจะเริ่มขึ้นในตอนกลางวันของวันอังคาร)
  4. ใช้กับสำนวนต่อไปนี้
    • on time (ตรงเวลา)
    • on Songkarn Day (วันสงกรานต์)
    • เช่น
      Ms. Grapes always arrives on time on Valentine’s Day.
      (คุณองุ่นจะมาตรงเวลาในวันวาเลนไทน์เสมอ)

3. IN

  1. ใช้กับช่วงเวลาของวัน
    [in + part of day]
    Mrs. Carot handed in her work in the afternoon.
    (คุณนายแครอทส่งงานของเธอเมื่อตอนบ่าย)
  2. ใช้กับเดือน
    The book named Party of Vegetables will be available in December.
    (หนังสือที่ชื่อว่างานเลี้ยงของเหล่าผักจะมีจำหน่ายในเดือนธันวาคม)
  3. ใช้กับฤดูกาล
    The kids are waiting for snow to fall in winter.
    (พวกเด็ก ๆ กำลังเฝ้ารอให้หิมะตกในฤดูหนาว)
  4. ใช้กับปีศักราช
    There will be a new technology invented in 2100.
    (จะมีเทคโนโลยีใหม่ถูกคิดค้นขึ้นในปี 2100)
  5. ใช้กับศตวรรษ
    Shakespeare lived in 16th century.
    (เชกสเปียร์ เคยมีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 16)
  6. ใช้กับเวลาในอนาคต
    Mr. Lettuce will go to Temple of Dawn in 5 minutes.
    (คุณผักกาดจะไปที่วัดแจ้งในอีก 5 นาที)
    This assignment must be submitted in 2 weeks.
    (งานชิ้นนี้จะต้องส่งในอีก 2 สัปดาห์)
  7. ใช้กับสำนวนต่อไปนี้
    • in the end (ในที่สุด)
    • in time (ทันเวลา)
    • in the past (ในอดีต)
    • in the future (ในอนาคต)
    • in the Middle Age (ในยุคกลาง)
    • เช่น
      Mr. Spinach meets Ms. Corn in the end.
      (คุณปวยเล้งก็ได้พบคุณข้าวโพดในที่สุด)
      Mr. Potato arrives at the meeting in time.
      (คุณมันฝรั่งมาถึงที่ประชุมทันเวลาพอดี)

2. Preposition of Place

คือ คำบุพบทบอกสถานที่ มีดังต่อไปนี้

1. IN

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงภายในอาคาร หรือสถานที่นั้น ๆ
    Mr. Mango is sitting in the lecture room.
    (คุณมะม่วงกำลังนั่งอยู่ในห้องบรรยาย)
  2. ใช้เมื่อกล่างถึงในเมืองหรือในประเทศ
    Ms. Orange has lived in Thailand since 1970.
    (คุณส้มอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 1970)
  3. ใช้เมื่อกล่าวถึงภูมิภาคต่าง ๆ
    Bangkok is in Central Thailand.
    (กรุงเทพฯ อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย)
  4. ใช้เมื่อกล่าวถึงชื่อถนน
    Mr. Pineapple’s store is located in Silom Road. *แบบอังกฤษ
    (ร้านของคุณสับปะรดตั้งอยู่ที่ถนนสีลม)

    *อังกฤษจะใช้ in __ Road. แต่ถ้าอเมริกันจะใช้ on __Road.

2. ON

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่อยู่บนพื้นผิว
    Your laptop is on the wooden table.
    (แล็ปท็อปของคุณมันอยู่บนโต๊ะไม้)
  2. ใช้เมื่อกล่าวถึงชั้นของอาคาร
    Ms. Cygnus is on the seventh floor.
    (คุณดาวหงส์อยู่บนชั้นเจ็ด)
  3. ใช้เมื่อกล่าวถึงชายแดน หรือเขตแดน
    Mr. Aran’s house is located on the border of these countries.
    (บ้านของคุณเอรานตั้งอยู่ตรงเขตชายแดนของประเทศเหล่านี้)
  4. ใช้เมื่อกล่าวถึงชายฝั่ง
    My boat is on the coast.
    (เรือของฉันอยู่บนชายฝั่ง)
  5. ใช้เมื่อกล่าวถึงชื่อถนน
    Mr. Pineapple’s store is located on Silom Road. *แบบอเมริกัน
    (ร้านของคุณสับปะรดตั้งอยู่ที่ถนนสีลม)

3. AT

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสถานที่ต่าง ๆ แบบชี้เฉพาะเจาะจง
    Mr. Cytus is at my house.
    (คุณไซตัสอยู่ที่บ้านฉัน)
  2. ใช้เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ
    Richard will be at the concert tonight.
    (ริชาร์ดจะมาคอนเสิร์ตคืนนี้)
  3. ใช้เมื่อกล่าวถึงเลขที่บ้าน หรืออาคารต่าง ๆ
    My house is at 1300/110, Nawamin Road.
    (บ้านของฉันอยู่ที่ ถนนนวมินทร์ บ้านเลขที่ 1300/110)
  4. ใช้เมื่อกล่าวถึงสถานที่ต่าง ๆ ในระหว่างการเดินทาง
    We will visit at Clementine’s house first.
    (พวกเราจะไปเยี่ยมบ้านคลีเมนไทน์ก่อน)

4. NEXT TO

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่ถัดไปจากอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is laying down next to Karl.
    (แจ็คสันกำลังนอนอยู่ข้าง ๆ คาร์ล)

5. BETWEEN

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is laying down between Karl and Hyon.
    (แจ็คสันกำลังนอนอยู่ระหว่างคาร์ลและฮียอน)

6. BEHIND

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่ข้างหลังอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is laying down behind Anna.
    (แจ็คสันกำลังนอนอยู่ด้านหลังแอนนา)

7. IN FRONT OF

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is laying down in front of Bonus.
    (แจ็คสันกำลังนอนอยู่ข้างหน้าโบนัส)

8. OPPOSITE

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is laying down opposite Smith.
    (แจ็คสันกำลังนอนอยู่ตรงข้ามกับสมิธ)

9. OVER

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่ข้างบนอีกสิ่งหนึ่ง *ต้องสัมผัสหรือครอบคลุมสิ่งนั้น
    Put this blanket over Jackson, he's shivering.
    (เอาผ้าห่มนี่ไปคลุมแจ็คสันซะ เขาสั่นไปหมดแล้ว)
  2. ใช้เมื่อกล่าวถึงตัวเลข
    Jackson is over 50.
    (แจ็คสันอายุเกิน 50 แล้ว)
  3. ใช้เมื่อกล่าวถึงการเคลื่อนที่เข้าไปหาสิ่งหนึ่ง
    Pass this glass over to Jackson.
    (ส่งแก้วนี้ต่อไปให้แจ็คสันที)

10. ABOVE

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่เหนืออีกสิ่งหนึ่ง *ต้องไม่สัมผัสสิ่งนั้น
    That chandelier above Jackson doesn't look sturdy.
    (แชนเดอเลียร์ที่อยู่เหนือแจ็คสันดูไม่มั่นคงเลยนะ)
  2. ใช้เมื่อกล่าวถึงตัวเลขที่มีหน่วย เช่น อุณหภูมิ ระดับน้ำทะเล หรือเปอร์เซนต์
    The temperature rises above 30 degrees.
    (อุณหภูมิขึ้นมาอยู่เหนือ 30 องศา)
    Jackson wants a house above the sea level.
    (แจ็คสันต้องการบ้านที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล)
    The chance of Jackson to be alive is above 50%.
    (โอกาสที่แจ็คสันจะมีชีวิตนั้นอยู่เหนือ 50%)

11. UNDER

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งที่อยู่ข้างใต้อีกสิ่งหนึ่ง *ต้องสัมผัสหรือเอื้อมถึงได้
    Jackson is crawling under the bridge.
    (แจ็คสันกำลังคลานอยู่ใต้สะพาน)

12. BELOW

  1. ใช้เหมือน Above แต่มีความหมายว่า 'ต่ำกว่า' *ต้องไม่สัมผัสสิ่งนั้น
    Jackson is working below his boss's office.
    (แจ็คสันกำลังทำงานอยู่ใต้ออฟฟิศของบอสเขา) *อยู่คนละชั้น
    Jackson's problem is below his paygrade.
    (ปัญหาของแจ็คสันนั้นเล็กเกินกว่าที่เขาจะให้ความสนใจ)
    The temperature in Jackson's room drops below 20 degrees.
    (อุณหภูมิในห้องของแจ็คสันร่วงลงมาต่ำกว่า 20 องศา)

13. INTO

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งเข้าไปหาหรือเข้าไปข้างในอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is crawling into the wood.
    (แจ็คสันกำลังคลานเข้าไปในป่า)
    Jackson is going into the room.
    (แจ็คสันกำลังเข้าไปในห้อง)

14. INSIDE

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งอยู่ข้างในอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is now standing inside the wood.
    (แจ็คสันกำลังยืนอยู่ในป่า)

15. OUTSIDE

  1. ใช้เมื่อกล่าวถึงสิ่งหนึ่งอยู่ข้างนอกอีกสิ่งหนึ่ง
    Jackson is outside the city.
    (แจ็คสันอยู่นอกเมือง)


ทีมผู้จัดทำ