Modal Verb คือ กริยาช่วยที่มีทั้งความหมายและมีหน้าที่ทางไวยากรณ์ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความหมายและการใช้ต่างกันไป modal verb ที่เราคุ้นชินและเห็นบ่อย ๆ ได้แก่
can | could |
may | might |
will | would |
shall | should |
must | have to |
ought to |
แต่เราจะมาดูการใช้ของแต่ละตัวให้ละเอียดยิ่งขึ้น
I can swim.
(ฉันว่ายน้ำเป็น)
I could ride a bicycle when I was a kid.
(ฉันเริ่มขี่จักรยานได้ เมื่อตอนเด็ก ๆ)
I may visit him if I’m not busy.
(ฉันอาจไปเยี่ยมเขา ถ้าไม่ยุ่ง)
--> แสดงว่าโอกาสที่จะไปเยี่ยมได้นั้น ยังพอมีอยู่
I might leave home early.
(ฉันอาจออกจากบ้านเช้า)
--> แสดงว่าโอกาสที่จะออกจากบ้านเช้านั้น เป็นไปได้น้อยมาก
She will absolutely win this competition.
(เธอจะชนะการแข่งขันนี้อย่างแน่นอน)
I would have gone to Japan if I had money.
(ฉันก็คงได้ไปญี่ปุ่นถ้าตอนนั้นฉันมีเงิน)
--> แสดงว่าในตอนนั้นผู้พูดไม่ได้มีเงิน เลยไม่ได้ไปญี่ปุ่น (เป็นเพียงการสมมติเหตุการณ์ในอดีต)
If I were superman, I would fly over the world.
(ถ้าฉันเป็นซูเปอร์แมน ฉังคงจะบินไปรอบโลก)
--> แสดงว่าผู้พูดไม่ใช่ซุปเปอร์แมน เลยไม่สามารถบินไปรอบโลกได้ (เป็นเพียงการสมมติสิ่งที่ไม่เป็นความจริง)
Shall we go to the cinema?
(พวกเราไปดูหนังกันไหม๊)
You should drink a lot of water because it’s good for your health.
(คุณควรดื่มน้ำเยอะ เพราะมันดีต่อสุขภาพ)
You ought to practice your English skills if you want to study abroad.
(คุณน่าจะฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษของคุณ หากต้องการที่จะไปเรียนที่ต่างประเทศ)
I have to send the email before noon.
(ฉันจำเป็นต้องส่งอีเมลก่อนเที่ยง)
--> ผู้พูดรู้ดีว่ามันสำคัญมากที่จะต้องส่งอีเมลให้ทันก่อนเที่ยง เพราะมิเช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายต่อองค์กรหรือคนส่วนใหญ่หากไม่ทันการ
I must reserve flight tickets for my family.
(ฉันต้องจองตั๋วเครื่องบินให้ครอบครัว)
--> ผู้พูดแค่ตระหนักว่าตนเองมีหน้าที่สำคัญในการจองตั๋วเครื่องบินให้ทุกคนในครอบครัว เพราะไม่มีใครทำได้ (หรือไม่ทำ) หากไม่ทำเองก็จะไม่มีตั๋วสำหรับขึ้นเครื่องบิน
นอกจากใช้ถามปกติแล้ว เช่น Can you play piano? เรายังมักจะใช้ modal verb ในประโยคคำถาม เมื่อต้องการแสดงความสุภาพหรือขอร้อง โดยมีโครงสร้างดังนี้
ตัวอย่าง:
Could you please close the door?
(คุณช่วยปิดประตูได้ไหมคะ)
ตัวอย่าง:
May I help you?
(ให้ช่วยอะไรไหมคะ)
ตัวอย่าง:
Shall we have dinner at your place?
(เราไปทานมื้อค่ำที่บ้านคุณกันไหม)
ตัวอย่าง:
Should we be there? I don't think he needs us.
(พวกเราควรไปอยู่ที่นั่นรึเปล่า ดูเหมือนเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือของเราหรอก)
ตัวอย่าง:
Must we learn piano? We hate musics
(พวกเราต้องเรียนเปียโนจริง ๆ เหรอ พวกเราเกลียดดนตรี)
ตัวอย่าง:
Would you go out with me?
(เป็นแฟนกับผมได้ไหมครับ)
เราสามารถทำให้ประโยคเป็นรูปปฏิเสธได้เพียงเติม not หลัง modal verb ตามโครงสร้างดังต่อไปนี้
โดยทำเป็นรูปย่อได้ดังต่อไปนี้
cannot | can’t |
could not | couldn’t |
may not | - |
might not | mightn’t |
should not | shouldn’t |
will not | won’t |
would not | wouldn’t |
must not | mustn’t |
have to | haven’t got to |
ตัวอย่าง:
I can’t speak Spanish fluently.
(ฉันพูดภาษาสเปนแบบคล่อง ๆ ไม่ได้)
I couldn't help her in time. I'm sorry.
(ฉันไม่สามารถช่วยหล่อนไว้ได้ทันเวลา ฉันขอโทษ)
I may not be a good person, but I'm decent enough to know what I should and shouldn't do.
(ฉันอาจไม่ใช่คนดีอะไรมาก แต่ก็ดีพอที่จะรู้ว่าอะไรที่ฉันควรและไม่ควรทำ)
I might not be back in time. If so, run away from here as far as you can.
(ฉันอาจกลับมาไม่ทันเวลา ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ วิ่งหนีไปจากตรงนี้ให้ใกล้ที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้)
She shouldn't have cheated on the exam.
(เธอไม่น่าโกงข้อสอบเลย)
I won't tolerate with anymore of your failures.
(ฉันจะไม่ทนกับความล้มเหลวของคุณไปมากกว่านี้อีกแล้ว)
I wouldn't do that If I were you.
(ฉันจะไม่ทำแบบนั้นถ้าฉันเป็นคุณ)
You mustn't enter, unless you are allowed to be in here.
(ห้ามคุณเข้ามา เว้นเสียแต่คุณได้รับอนุญาตให้อยู่ในห้องนี้)
You don't have to go through this alone, I'm by yourside.
(คุณไม่จำเป็นต้องฝ่าฟันไปคนเดียวหรอก ฉันอยู่ข้าง ๆ คุณ)
You haven't got to be a superhero to be good person.
(คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ในการที่จะเป็นคนดี)