Tense
Present simple, continuous, perfect
GAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : gerund and participle
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : since, for
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การผันกริยา 3 ช่อง
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Used to
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Past simple, continuous, perfect : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Future Tense (will and be going to) : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Comparison of tenses
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

Subject - Verb agreement (ชุดที่ 1)

MEDIUM

Subject-Verb agreement (ชุดที่ 2)

HARD

Subject - Verb agreement (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

SUBJECT – VERB AGREEMENT

ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ผันกริยาไปตามประธานและกาลของเหตุการณ์ที่พูดถึง โดยหลัก ๆ แล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการผันกริยาให้สอดคล้องกับประธานในประโยค คือ จำนวน คำกริยาในประโยคจะผันอย่างไร ขึ้นอยู่กับจำนวนของประธานในประโยค ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ คือ มีเพียงหนึ่งเดียว กริยาต้องเป็นเอกพจน์ด้วย แต่ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ คือมีมากกว่าหนึ่ง กริยาต้องเป็นพหูพจน์ เช่น

  • A bird sings
  • Birds sing
  • A bird and a cat sing --> ในประโยคนี้มีประธานเอกพจน์สองตัว และเชื่อมกันด้วย and แสดงว่ามีประธานมากกว่าหนึ่ง กริยาจึงต้องเป็นพหูพจน์ 

กลุ่มที่ต้องใช้
กริยาเอกพจน์

กลุ่มที่ต้องใช้
กริยาพหูพจน์

คำนามนับได้
เอกพจน์

(มักตามหลัง a, an, the)
a boy, a bird,
a pencil, a house,
a country

คำนามนับไม่ได้
salt, sugar,
water, rice,

คำนามนับได้
พหูพจน์
boys, birds,
pencils, houses,
countries

He, She, It

I, You,
We, They

สำหรับ I
เมื่ออยู่ในประโยค
present simple tense
ใช้ am

และในประโยค
past simple tense
ใช้ was

คำนามเอกพจน์
หนึ่งคำขึ้นไป
ที่เชื่อมด้วย or
ต้องใช้
กริยาเอกพจน์

เช่น
Tom or Tim
that is washing
the car.

คำนามเอกพจน์
หนึ่งคำขึ้นไป
เชื่อมด้วย and
ต้องใช้
กริยาพหูพจน์

คำนามบางคำ
ที่ลงท้ายด้วย s
แต่เป็นเอกพจน์

เช่น news, means,
economics, linguistics,
mathematics, politics,
physics, statistics,
gymnastics, diabetes,
rabies

คำนามที่มีรูป
เป็นเอกพจน์
แต่ต้องใช้
กริยาพหูพจน์

เช่น people,
police, staff


Every / Each
เป็นคำเอกพจน์
ที่ใช้กับ
คำนามเอกพจน์
เท่านั้น
เช่น  
Every student
is sitting down.

Everyone hopes
for peace.

คำนามบางคำ
มักเป็นพหูพจน์
และต้องใช้
กริยาพหูพจน์

เช่น belongings,
clothes, earnings,
goods, stairs,
savings, surroundings

คำนามพหูพจน์
ที่ตามหลัง
any of, each of,
either of, neither of,
none of
เช่น

None of the girls
was absent.

Each of them
knows it.


การบอกปริมาณ
หรือจำนวน

เช่น
Twenty miles
is a long way
to walk.



ประธานที่อยู่ในรูปเอกพจน์

คำนามบางคำที่อยู่ในรูปเอกพจน์ แต่สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์ หรือ พหูพจน์ ขึ้นอยู่กับการตีความว่าจะมองว่าสิ่ง ๆ นั้น เป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวบรวมหลาย ๆ สิ่งเข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว (a collection of individuals) หรือ เป็นหนึ่งกลุ่มหนึ่งเดียว เช่น

  • การใช้ There (v. to be) ที่แปลว่า มี เพื่ออธิบายถึงสิ่งที่มีอยู่ในที่ ๆ หนึ่ง โดยกริยาจะผันตามคำนามที่กล่าวถึง เช่น
There are books on the desk.
(มีหนังสือหลายเล่มอยู่บนโต๊ะ)

--> จะเห็นว่าเมื่อมีหนังสือหลายเล่ม (books) be จึงผันเป็น are ที่เป็นคำกริยาพหูพจน์

There is a book in my bag.
(มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งในกระเป๋าของฉัน)

--> มีหนังสือหนึ่งเล่มในกระเป๋า (book) be จึงผันเป็น is ที่เป็นคำกริยาเอกพจน์ เพราะคำนามที่ตามมามีเพียงหนี่งเดียว