Tense
Present simple, continuous, perfect
GAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : gerund and participle
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : since, for
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การผันกริยา 3 ช่อง
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Used to
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Past simple, continuous, perfect : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Future Tense (will and be going to) : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Comparison of tenses
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย

Present simple, continuous, perfect

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

Present simple, continuous, perfect (ชุดที่ 1)

MEDIUM

Present simple, continuous, perfect (ชุดที่ 2)

HARD

Present simple, continuous, perfect (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

      ภาษาอังกฤษมีรูปแบบในการบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ปัจจุบัน อดีต และ อนาคต แตกต่างกัน สำหรับในบทนี้ จะอธิบายเฉพาะช่วงเวลาปัจจุบัน ซึ่งแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ simple, continuous, perfect

PRESENT SIMPLE TENSE

      Tense นี้ นับเป็น tense พื้นฐาน เรียกได้ว่า เป็น tense แรกที่เราได้ทำความรู้จักกับภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ประโยคที่เรามักพูดเป็นแรก ๆ เช่น What is your name? My name is Chujai. จะเห็นว่าเป็นการใช้ present simple tense เพราะเป็นความจริง ถึงแม้บางคนอาจจะมีการเปลี่ยนชื่อ แต่ในปัจจุบันที่พูดนั้น เราใช้ชื่อนั้นจริงๆ

HOW TO USE :

      ใช้ present simple tense เมื่อต้องการอธิบายถึงเหตุการณ์ดังนี้

  • เรื่องจริงทางวิทยาศาสตร์
  • เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสม่ำเสมอ เป็นกิจวัตรประจำวัน หรือ สิ่งที่ทำเป็นประจำจนเป็นนิสัย
  • การอธิบายตารางการเดินทาง, การฉายภาพยนตร์, การบอกรอบการแสดงหรือกิจกรรมที่มีการวางแผนระบุช่วงเวลาไว้อย่างแน่นอน ชัดเจน

FORM : ประโยคบอกเล่า Simple Tense

Subject + V1
  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 1 (I / You / We / They) จะเป็น V1 คงรูป ---> work

เช่น

I work at a bank.

(ฉันทำงานที่ธนาคาร)

  • ประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 (He / She / It) เอกพจน์คำกริยาจะต้องเติม s หรือ es ---> works

เช่น


She works at a bank.

(หล่อนทำงานที่ธนาคาร)


FORM : ประโยคปฏิเสธ Simple Tense

Subject + do / does + not + V. infinitive
  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 1 (I / You / We / They) do not work เป็น แบบย่อ --> don’t work

เช่น

You don't work at a store.

(คุณไม่ได้ทำงานที่ร้าน)

  • ประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 (He / She / It) does not work เป็น แบบย่อ --> doesn’t work

เช่น

He doesn't work at a store.

(เขาไม่ได้ทำงานที่ร้าน)


FORM : ประโยคคำถาม Simple Tense

Do / Does + Subject + V infinitive
  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 1 (I / you / we / they)

เช่น

Do we work until midnight?

(พวกเราจะทำงานจนถึงเที่ยงคืนเลยเหรอ?)

  • ประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 (he / she / it)

เช่น

Does it work until tomorrow?

(มันจะทำงานจนถึงพรุ่งนี้ไหม?)


FORM : ประโยคคำตอบ Simple Tense

  • Yes, (I / you / we / they) do
  • Yes, (he / she / it) does
  • No, (I / you / we / they) do not / don't
  • No, (he / she / it) does not / doesn't
*ประธานและกริยาในประโยคคำตอบจะต้องตรงกับประธานและกริยาในประโยคคำถาม

เช่น

A : Do we work until midnight?
B : Yes, we do.

A : พวกเราจะทำงานจนถึงเที่ยงคืนเลยเหรอ?
B : ใช่แล้ว พวกเราจะทำงานถึงเที่ยงคืน

A : Does it work until tomorrow?
B : Yes, it does.

A : มันจะทำงานจนถึงพรุ่งนี้ไหม?
B : ใช่แล้ว มันทำงานได้

A : Do they like spaghetti?
B : No, they don't.

A : พวกเขาชอบสปาเก็ตตี้รึเปล่า?
B : ไม่ พวกเขาไม่ชอบ

A : Does she like KFC?
B : No, she doesn't.

A : หล่อนชอบ KFC รึเปล่า?
B : ไม่ หล่อนไม่ชอบ


การสะกดคำกริยาในบุรุษที่ 3 เอกพจน์ สำหรับ Simple Tense

กริยาส่วนใหญ่
สามารถเติม s ได้เลย

  • Work เป็น works
  • Sit เป็น sits
  • Stay เป็น stays

คำกริยาที่ลงท้าย
ด้วยพยัญชนะ
แล้วตามด้วย y
ให้เปลี่ยน y เป็น i

  • Cry เป็น cries
  • Hurry เป็น hurries
  • Reply เป็น replies

กริยาที่ลงท้ายด้วย
s z ch sh หรือ x
ให้เติม es

  • Miss เป็น misses
  • Watch เป็น watches
  • Push เป็น pushes

กลุ่มคำกริยา
ที่เปลี่ยนรูปไปเลย

  • Have เป็น has
  • Go เป็น goes
  • Do เป็น does
  • Be เป็น is/am/are
*Useful words*
เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์ที่ใช้ present simple tense นั้น มักจะมีคำที่ใช้บอกช่วงเวลาที่สำคัญ ๆ และเห็นได้บ่อย ๆ คือ คำเหล่านี้เราเรียกว่า “frequency adverbs” คือ คำกริยาวิเศษณ์ที่แสดงความถี่มักจะวางไว้กลางประโยค

Frequency
adverbs

อัตราความถี่

Never

0%

Rarely

5%

Seldom

10%

Occasionally

30%

Sometimes

50%

Often

70%

Usually

90%

Always

100%

มีตำแหน่งการวางในประโยคดังนี้

  • หลังประธาน หน้าคำกริยา :
Subject + frequency adverbs + verb

เช่น      - Karen always tells the truth.
       --> คาเรนจะพูดความจริงตลอด

           - Do you always eat breakfast?
       --> คุณรับประทานอาหารเช้าประจำไหม๊?

  • หลังประธาน และ V. to be :
Subject + v. to be + Frequency adverbs

เช่น      - Karen is always on time.
       --> คาเรนจะตรงเวลาตลอด


PRESENT CONTINUOUS TENSE

      Present Continuous Tense หรือ บางทีก็เรียกกันว่า Present Progressive ซึ่งทั้งสองชื่อ หมายถึง การบรรยายเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะที่พูด ให้สังเกตคำว่า “continuous” และ “progressive” ทั้งสองคำนี้ หมายถึง อย่างต่อเนื่อง อย่างที่เป็นกระบวนการขั้นตอนต่อเนื่อง ดังนั้นแล้วการใช้

HOW TO USE :

      ใช้ present continuous tense เมื่อต้องการอธิบายถึงเหตุการณ์ดังนี้

  • เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังพูด
  • เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ดำรงอยู่ตลอดไป
  • แผนการณ์ที่ได้เตรียมไว้แล้ว และจะเกิดขึ้นแน่นอน

FORM : ประโยคบอกเล่า Continuous Tense

Subject + V. to be + V.ing
ประธาน I --> I am working (ฉันกำลังทำงาน)
  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 2 (You / We / They) are working

เช่น 

We are working day and night to finish it in time.

(พวกเราทำงานกันทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้เสร็จทันเวลา)


  • ประธานเอกพจน์ สรรพนามบุรุษที่ 3 (He / She / It) is working

เช่น 

She is working hard to achieve her goal.

(หล่อนกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเธอ)


FORM : ประโยคปฏิเสธ Continuous Tense

SubjectV. to be + not + V.ing
ประธาน I --> I am not working
(You / We / They) are not working 
เป็น แบบย่อ ได้
(You / We / They) aren’t working
(He / She / It) is not working 
เป็น แบบย่อ ได้
(
He / She / It) isn’t working

FORM : ประโยคคำถาม Continuous Tense

V. to be + SubjectV.ing
ประธาน I --> Am I working?

*กรณีประธานคือตัวผู้พูดเอง คำถามมักจะเป็นการถามตัวเองเพื่อยืนยัน (คุยกับตัวเอง)

  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 2 --> Are (you / we / they) working?

เช่น

Are you working on this holiday?

(นายทำงานในวันหยุดที่จะถึงนี้ไหม?)

*กรณีนี้เป็นการถามเพื่อยืนยันสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าเป็นจริงหรือไม่
  • ประธานเอกพจน์ สรรพนามบุรุษที่ 3 --> Is (he / she / it) working?

เช่น

Is she working overtime?

(หล่อนกำลังทำงานล่วงเวลารึเปล่า)

*กรณีนี้เป็นการถามเพื่อยืนยันว่าช่วงเวลานี้ (ชม. / วัน / เดือน / ปี) หล่อนทำงานล่วงเวลาอยู่รึเปล่า (ไม่แน่ในอนาคตอาจไม่ทำแล้ว)

FORM : ประโยคคำตอบ Continuous Tense

  • Yes, I am (working)
  • Yes, (you / we / they) are (working)
  • Yes, (he / she / it) is (working)
  • No, I am not (working)
  • No, (you / we / they) are not (working)
  • No, (he / she / it) is not (working)
*เช่นเดิมว่าประธานและกริยาในประโยคคำตอบจะต้องตรงกับประธานและกริยาในประโยคคำถาม

เช่น

A : Am I doing this right?
A : Yes, I am (doing this right).
กับ
A : Am I doing this right?
B : Yes, you are (doing this right).
*กรณีแรกจะสังเกตเห็นว่ามีแค่คนเดียวที่ถามและตอบ เป็นการคุยกับตัวเอง แต่กรณีที่สองแม้จะเป็นการถามเพื่อยืนยันเกี่ยวกับตัวเอง ผู้ที่กำลังพูดด้วยก็สามารถตอบได้เช่นกัน
*Useful words*
เมื่อต้องการอธิบายเหตุการณ์ที่ใช้ present continuous tense นั้น มักจะมีคำที่ใช้บอกช่วงเวลาที่สำคัญ ๆ และเห็นได้บ่อย ๆ คือ now, at this moment

เช่น           

I want you to come here right now!

(ฉันต้องการให้คุณมาที่นี่เดี๋ยวนี้!)

It is at this moment that everyone is angry with him.

(ตอนนี้แหละ คือตอนที่ทุกคนโกรธเขา)


PRESENT PERFECT TENSE

      Tense นี้ เป็นเรื่องที่อาจสร้างความสับสนให้กับคนไทยได้นิดหน่อย เพราะเป็นการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ทำไมถึงไม่ใช้ past simple tense อันนี้หลักการจำง่าย ๆ ก็คือ คำว่า “perfect” อะไรที่ perfect คืออะไรที่สมบูรณ์แบบ สามารถอยู่รอดมาได้ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และจะยังคงมีไปถึงอนาคต

HOW TO USE :

  • เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และส่งผลมายังปัจจบันขณะที่พูด และมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในอนาคตด้วย
  • เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในอดีต แต่ไม่ได้ระบุช่วงเวลาไว้ และส่งผลมายังปัจจุบันขณะที่พูด

FORM : ประโยคบอกเล่า Perfect Tense

Subject V. to have + V3 / past participle (V ช่องที่ 3)
  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 1 (I / You / We / They) have worked

เช่น

They have worked here for 10 years.

(พวกเขาทำงานที่นี่มาเป็นเวลา 10 ปี แล้ว)


  • ประธานเอกพจน์ สรรพนามบุรุษที่ 3 (He / She / It) has worked

เช่น

He has only worked for 15 minutes before he got sick.

(เขาเพิ่งจะทำงานได้แค่ 15 นาที ก่อนที่จะมาป่วย)

*คำศัพท์ที่แสดงการกระทำที่ต้องใช้เวลา เช่น work, learn, study สามารถเขียนได้ในรูป Perfect tense และ Perfect continuous tense แต่ยังคงมีความหมายเดียวกัน (แทนกันได้)

FORM : ประโยคปฏิเสธ Perfect Tense

SubjectV. to have + not + V3 / past participle
  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 1 (I / You / We / They) have not worked เป็น แบบย่อ --> haven’t worked

เช่น

You haven't worked with them yet.

(นายยังไม่เคยได้ทำงานกับพวกเขาเลย)


  • ประธานเอกพจน์ สรรพนามบุรุษที่ 3 (He / She / It) has not worked เป็น แบบย่อ --> hasn’t worked

เช่น

It hasn't worked for a long time, I'm afraid it's broken.

(มันไม่ทำงานมานานแล้ว ฉันเกรงว่ามันพังแล้วแหละ)

*สังเกต "It is broken" ถึงแม้ broken จะอยู่ในรูป V3 เหมือน Perfect แต่จริง ๆ แล้วมันอยู่ในรูป passive voice เฉย ๆ หมายถึงประธานที่ถูกพูดถึงหรือถูกกระทำ

FORM : ประโยคคำถาม Perfect Tense

V. to have + SubjectV3 / past participle
  • ประธานพหูพจน์ และสรรพนามบุรุษที่ 1 --> Have (I / You / we / they) worked?

เช่น

Have we seen this movie before?

(เราเคยดูหนังเรื่องนี้กันรึเปล่า?)


  • ประธานเอกพจน์ สรรพนามบุรุษที่ 3 --> Has (he / she / it) worked?

เช่น

Has he gone insane? He's going to get us killed!

(เขาบ้าไปแล้วรึเปล่า? เขากำลังจะทำให้พวกเราตายกันหมด!)

*สังเกต "get us killed" เช่นเดียวกันกับคำว่า broken ถึงแม้ killed จะอยู่ในรูป V3 เหมือน Perfect แต่จริง ๆ แล้วมันอยู่ในรูป passive voice คือประธาน (us) ถูกฆ่าตาย (killed)

FORM : ประโยคคำตอบ Perfect Tense

  • Yes, (I / you / we / they) have (worked)
  • Yes, (he / she / it) has (worked)
  • No, (I / you / we / they) have not (worked)
  • No, (he / she / it) has not (worked)
*เช่นเดิมว่าประธานและกริยาในประโยคคำตอบจะต้องตรงกับประธานและกริยาในประโยคคำถาม

เช่น
สถานการณ์ [A ซื้อพิซซ่ามาแบ่งเพื่อน ๆ ตอนทำงานกลุ่ม จึงถาม B ว่าได้กินทุกคนรึยัง]

A : Have they eaten my pizza?
B : Yes, they have (eaten it).
C : No, we haven't (eaten it)!

A : พวกเขากินพิซซ่าฉันไปรึยัง?
B : ใช่ เรียบร้อยแล้ว
C : ไม่ พวกเรายังไม่ได้กิน!

*ข้อสังเกต นาย C เพิ่งเข้าร่วมการสนทนาระหว่าง A กับ B และใช้เรียกตัวเองว่า we ซึ่งต่างจาก A กับ B ที่ใช้เรียกพวกนาย C ว่า they เพราะ A กับ B กำลังกล่าวถึงบุคคลที่ 3 (ถูกพูดถึง) ในขณะที่เป็นคนกลุ่มเดียวกันแต่กลายบุคคลที่ 1 (ผู้พูด) ในภายหลัง จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนาย B ใช้ประธานตัวเดียวกันกับคำถาม แต่นาย C ไม่ได้ใช้ ซึ่งยังไงก็ตามก็ยังหมายถึงคนกลุ่มเดียวกันอยู่ดี