คำนามนั้น หากแบ่งตามลักษณะ คือจะมีคำนามนับได้ และนับไม่ได้ ซึ่งตำแหน่งคำนามนั้นอยู่ได้หลายตำแหน่งในประโยค การที่เราสามารถรู้ตำแหน่งคำนามในประโยคนั้น จะสามารถช่วยให้เราเลือกและนำไปใช้ได้ถูกต้อง และตำแหน่งคำนามในประโยคมีดังนี้
ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค เช่น
Thailand is my hometown.
(ประเทศไทยคือบ้านเกิดของฉัน)
โดย Thailand (ประเทศไทย) เป็น ประธานของประโยค และเป็นคำนาม
ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มให้ประธานมีความสมบูรณ์ชัดเชนมากยิ่งขึ้น เช่น
Green is my favorite color.
(สีเขียวคือสีที่โปรดปรานของฉัน)
my favorite color คือกลุ่มคำนามที่ทำให้ green (สีเขียว) มีความหมายชัดเจน และ คำนามหลักหลัง v. to be ก็คือ คำว่า color
ทำหน้าที่เป็น Object (กรรม) เช่น
I have already finished my project.
(ฉันทำโครงการของฉันเสร็จไปแล้ว)
จะเห็นว่า กริยาของประโยคคือ finish(ed) ส่วนกรรมของ verb นี้ก็คือ my project คือกลุ่มคำนามที่เป็นกรรมของกริยา โดย คำนามหลักคือ project
ทำหน้าที่เป็นทั้งกรรมตรงและกรรมรองสำหรับ กริยาบางตัว เช่น
I sent Jeff a birthday gift
(ฉันส่งของขวัญวันเกิดไปให้เจฟ)
โดย กริยาของประโยคนี้ก็คือ sent (send) โดยมีกรรม 2 ตัวคือ Jeff และกรรมรองคือกลุ่มคำนาม a birthday gift ซึ่งกรรมทั้งสองนี้คือ คำนามทั้งคู่ และ a gift คือกรรมรองที่เป็นคำนามหลัก
ทำหน้าที่เป็นกรรมของ preposition เช่น
A police approached to the crime scene.
(ตำรวจเดินเข้าไปในที่เกิดเหตุ)
หลังคำบุพบท to นั้น คือคำนาม the crime scene ซึ่งทำหน้าที่เป็นกรรมของ preposition
เช่น
The grass is always greener on the other side of the fence. (idiom)
(หญ้าที่อยู่อีกด้านของรั้วมักจะเขียวกว่าเสมอ)
โดยจะเห็นว่า ในประโยคนี้มี article 3 ตัวด้วยกัน ดังนั้นมีคำนามด้วยกันสามตัวดังนี้ the grass (หญ้า) the (other) side (อีกด้าน) และ the fence (รั้วบ้าน)
หรือ คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น
My purse was stolen yesterday.
(กระเป๋าสตางค์ของฉันถูกขโมยไปเมื่อวานนี้)
หลัง my เป็นคำนาม และยังอยู่ในตำแหน่งประธานด้วย