Tense
Present simple, continuous, perfect
GAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : gerund and participle
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : since, for
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การผันกริยา 3 ช่อง
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Used to
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Past simple, continuous, perfect : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Future Tense (will and be going to) : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Comparison of tenses
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

Types of pronouns (ชุดที่ 1)

MEDIUM

Types of pronouns (ชุดที่ 2)

HARD

Types of pronouns (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

PRONOUN

คือสรรพนาม ที่ใช้เรียกชื่อแทน คน สัตว์ สิ่งของ มีด้วยกัน 5 ประเภท

1. Personal Pronouns (บุรุษสรรพนาม)

ใช้เรียกแทนบุคคล สัตว์ และสิ่งของ โดยแบ่งเป็น

  • บุรุษที่ 1 (First Person) คือ ผู้พูด สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) มีคำดังนี้
    • I, me = ฉัน
    • We, us = พวกเรา
  • บุรุษที่ 2 (Second Person) คือ ผู้ฟังหรือผู้ที่กำลังถูกพูดด้วย สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) มีคำดังนี้
    • You, you = คุณ, พวกคุณ
  • บุรุษที่ 3 (Third Person) คือ ผู้ที่ถูกกล่าวถึง สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) และเป็นได้ทั้งบุคคล สัตว์ หรือสิ่งของ มีคำดังนี้
    • He, him = เขา (ผู้ชาย)
    • She, her = เขา (ผู้หญิง)
    • It, it = มัน (ใช้กับสัตว์ สิ่งของ)
    • They, them = พวกเขา, พวกมัน

รูปประธาน (Subject forms)

a. I แทนตัวผู้พูด

I watched all X-men movies yesterday.
(ฉันดูหนัง X-men ทุกภาคหมดแล้วเมื่อวานนี้)

b. You แทนผู้ที่กำลังถูกพูดด้วย

You should do your homework instead.
(คุณควรจะทำการบ้านแทนนะ)

c. He เมื่อพูดถึงผู้ชาย หรือสัตว์เลี้ยงเพศผู้

Logan is a good man, he always tries to help me.
(โลแกนเป็นคนดีนะ เขาพยายามจะช่วยฉันอยู่ตลอดเวลา)

d. She เมื่อพูดถึงผู้หญิง หรือสัตว์เลี้ยงเพศเมีย

Mrs. Grey had a meeting yesterday, but she did not show up.
(คุณนายเกรย์มีประชุมเมื่อวานนี้ แต่เธอไม่ได้ไปเข้าร่วมด้วย)

e. It เมื่อพูดถึงสัตว์ สิ่งของ หรือใช้แทนเด็กทารก (ไม่ระบุ / ไม่รู้เพศ)

Do you see my laptop? It was in my room.
(คุณเห็นแล็ปท็อปฉันรึเปล่า? ตอนแรกมันอยู่ในห้องฉัน)

f. They เมื่อพูดถึงพวกเขา พวกมัน (พหูพจน์)

X-men are good people. They helped saving the world several times.
(X-men เป็นกลุ่มคนดีนะ พวกเขาช่วยปกป้องโลกมาไม่รู้กี่ครั้ง)

g. We แทนตัวผู้พูดในรูปแบบหลายคน (พหูพจน์)

We must change our schedule this week.
(เราต้องเปลี่ยนตารางสัปดาห์นี้ของพวกเรา)

รูปกรรม (Object for)

a. ใช้สรรพนามรูปกรรมหลังกริยาโดยเป็นกรรมตรง (Direct object)

He helped me gather information to plan. (I --> me)

b. ใช้สรรพนามรูปกรรมกับกรรมตรง (Direct object) เมื่อประโยคมีกรรมสองสิ่งโดยสิ่งของจะเป็นกรรมตรง (Direct object) และคนรับจะเป็นกรรมรอง (Indirect object)

Erik seemed to be sad, so I told him a joke. (He --> him)

c. ใช้สรรพนามรูปกรรมหลังคำบุพบท

Scott is waiting for you to go to school. (You --> you)
Professor commanded him to do it. (It --> it)
Do you see my glasses? I’m looking for it for 15 minutes. (It --> it)
I’d like you to inform them about the news. (They --> them)

2. คุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Adjectives)

คือ คำคุณศัพท์ที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ มีดังนี้

my = ของฉัน
your = ของคุณ
his = ของเขา (ผู้ชาย)
her = ของเขา (ผู้หญิง)
their = ของพวกเขา
our = ของพวกเรา
your = ของพวกคุณ
its = ของมัน

ตัวอย่างเช่น

Captain America is my favorite character.
(กัปตันอเมริกาคือตัวละครที่โปรดปรานของฉัน)
Vibranium shield is his weapon.
(โล่ไวเบรเนียมคืออาวุธของเขา)
Wakanda is its source.
(วากันดาคือแหล่งของมัน)

โดย my ในประโยคแรก พูดถึง ตัวผู้พูดเอง
โดย his ในประโยคที่สอง พูดถึง Captain America ในประโยคแรก
โดย its ในประโยคที่สาม พูดถึง Vibranium ในประโยคที่สอง

รวมประโยค:

"Captain America is my favorite character. Vibranium shield is his weapon. Wakanda is its source."
(กัปตันอเมริกาคือตัวละครที่โปรดปรานของฉัน โล่ไวเบรเนียมคืออาวุธของเขา และวากันดาก็คือแหล่งของแร่ไวเบรเนียม)
 ข้อควรจำ Possessive Adj. จะต้องมีคำนามตามหลังเสมอ

3. สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Pronouns)

คือ คำสรรพนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ

mine = ของฉัน
yours = ของคุณ
his = ของเขา (ผู้ชาย)
hers = ของเขา (ผู้หญิง)
theirs = ของพวกเขา
ours = ของพวกเรา
yours = ของพวกคุณ
its = ของมัน

 ตัวอย่างเช่น 

This cartoon book is mine.
(หนังสือการ์ตูนเล่มนี้เป็นของฉัน)
Yours are on the table over there.
(ของคุณอยู่บนโต๊ะตรงนู้น)
This house is theirs.
(บ้านหลังนี้เป็นของพวกเขา)
 ข้อควรจำ  Possessive Pron. ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง

4. สรรพนามสะท้อนกลับ (Reflexive pronouns)

คือ คำสรรพนามที่ใช้เมื่อพูดถึงบุคคลหรือสิ่งของเหมือนกับที่เราเคยกล่าวมาก่อนแล้ว

Myself = ตัวฉันเอง
yourself = ตัวคุณเอง
himself  = ตัวเขาเอง (ผู้ชาย)
herself = ตัวเขาเอง (ผู้หญิง)
themselves = ตัวพวกเขาเอง
ourselves = ตัวพวกเราเอง
yourselves = ตัวพวกคุณเอง
itself = ตัวมันเอง

ตัวอย่างเช่น

He created that art piece all by himself.
(เขาสร้างผลงานศิลปะนั้นขึ้นด้วยตัวของเขาเอง)
You should study hard for yourself.
(คุณควรจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้นเพื่อตัวของคุณเอง)
All of you must get yourselves the tickets to this movie.
(พวกคุณควรจะหาตั๋วสำหรับตัวเองเพื่อที่จะไปดูหนังเรื่องนี้)
We enjoyed ourselves at the party.
(พวกเราสนุกกับการมางานเลี้ยงครั้งนี้)

นอกจากนี้เรายังเรียก Reflexive pronouns ว่า emphatic pronouns (สรรพนามที่เน้นประธาน) ซึ่งเราใช้เพื่อเน้นคำนาม โดยที่ตำแหน่งนั้นอาจจะอยู่ท้ายประโยค หรืออยู่ติดกับคำนามที่ขยายก็ได้ เช่น

They themselves like to watch movies at home.
(ตัวพวกเขาเองนั้นชอบดูหนังอยู่กับบ้าน)
The cat cannot catch the catfish itself.
(แมวไม่สามารถจับปลาดุกได้ด้วยตัวมันเอง)

5. คำสรรพนามอื่น ๆ (Other pronouns) one and ones

คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นโดย

  • a. ใช้หลังคำคุณศัพท์ (adjective) โดย one แทนนามเอกพจน์ : Bruce is a rich man, but Kent is a poor one. ส่วน ones แทนนามพหูพจน์ : I prefer English poems than American ones.
  • b. ใช้หลัง the : Batman is the one who saves Gotham City. หรือ I don’t like these shirts as much as the ones we looked at before.
  • c. ช้หลัง every, และ each (บางครั้งละได้) เช่น Everyone shouldn’t use a phone while walking. There are ten boxes. เปลี่ยนเป็น Each (one) contains a photograph.
  • d. ช้หลัง demonstrative adjective (this, that, those, these) เช่น This one is mine. หรือ These ones are belonged to him.

6. Compounds with every, some, any and no

คำสรรพนามอื่น ๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้นสามารถรวมกับคำเหล่านี้ให้กลายเป็นคำประสมได้โดย

  • a. ใช้ -one / -body เมื่อกล่าวถึงคน เช่น
-Everyone / Everybody needs air.
(ทุกคนต้องการอากาศ)
-Someone / Somebody likes a huge mansion.
(มีใครบางคนชอบคฤหาสน์หลังใหญ่)
-Has anyone / anybody seen Thor 3?
(มีใครได้ดูหนังเรื่อง ธอร์ 3 แล้วบ้าง?)
-No one / Nobody likes to be alone.
(ไม่มีใครชอบการอยู่คนเดียวหรอก)
  • b. ใช้ -thing เมื่อกล่าวถึงสิ่งของ เช่น
-You got everything you need now.
(คุณได้รับทุกอย่างที่ควรจะรู้แล้ว)
-There is something in the wood.
(มีอะไรบางอย่างอยู่ในป่า)
-Do you need anything from me?
(คุณต้องการอะไรจากฉันรึเปล่า?)
-We left nothing behind.
(เราไม่ได้ลืมอะไรไว้นะ)
  • c. ใช้ -where เมื่อกล่าวถึงสถานที่ เช่น
-Everywhere has a good hero.
(ทุก ๆ ที่มักจะมีฮีโร่ดี ๆ อยู่)
-It must be somewhere.
(มันต้องอยู่ที่ไหนซักแห่ง)
-Charles has not seen his friend anywhere.
(ชาลส์ไม่เห็นเพื่อนของเขาที่ไหนเลย)
-There is nowhere to go now.
(ไม่มีที่จะไปแล้วตอนนี้)


ทีมผู้จัดทำ