Tense
Present simple, continuous, perfect
GAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : gerund and participle
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Present simple, continuous, perfect : since, for
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การผันกริยา 3 ช่อง
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Used to
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Past simple, continuous, perfect : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Future Tense (will and be going to) : Question, Affirmative and Negative sentence
GAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
Comparison of tenses
GAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย

Compound adjective (i.e. noise-canceling)

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

Compound adjective (i.e. noise-canceling) (ชุดที่ 1)

MEDIUM

Compound adjective (i.e. noise-canceling) (ชุดที่ 2)

HARD

Compound adjective (i.e. noise-canceling) (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

COMPOUND ADJECTIVE

Compound Adjective คือ การรวมคำคุณศัพท์มากกว่าหนึ่งคำเข้าไว้ด้วยกัน “compound” แปลว่ารวม compound adjective นั้นยังคงทำหน้าที่เดิมเลยคือ การอธิบายคำนาม โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้ hyphen (–) เชื่อมระหว่างสองคำ เช่น A two-year-old girl (เด็กสาวอายุสองขวบ)

โดยการที่เราจะใช้ compound adjectives นั้น จะต้องเกิดจากการรวม adj. กับ adv. หรือคำอื่น ๆ เพื่อ "ให้เป็นคำใหม่ที่มีหน้าที่เป็น adj." แล้วจึงใช้ขยายคำนาม ยกตัวอย่างเช่น

Feel (v.), lonely (adj.), time (n.) และ book (n.) 4 คำนี้คนละความหมายและคนละหน้าที่กันเลย แต่อยากจะใช้อีกสามคำมาขยายคำว่า book เราจึงประสม Feel, lonely และ time ด้วย hyphen (-) ทำให้มันเป็น compound adjective ได้เป็น: Feel-lonely-time ได้ประโยคเป็นดังนี้

A feel-lonely-time book.
(หนังสือสำหรับอ่านในเวลาที่เราเหงา)

ซึ่งต่างจากการใช้ adj. หลาย ๆ ตัวเหมือนบทก่อน ๆ ที่แต่ละตัวก็มีความหมายในตัวมันเอง และก็จะขยายคำนามตัวเดียวกัน หรือนามวลีเดียวกัน

Compound Adjective นั้น สามารถประกอบได้หลายแบบ เช่น

Adverb
+
Past
Participle

มี hyphen

-He is a well-known actor.
(เขาคือดาราที่มีชื่อเสียง)

-We live in a densely-populated city.
(พวกเราอาศัยอยู่ในเมืองที่หนาแน่นไปด้วยผู้คน)

Noun
+
Past
Participle

มี hyphen

-We should start using
wind-powered generators to cut costs.
(พวกเราควรจะเริ่มใช้เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลม
เพื่อตัดค่าใช้จ่าย)

-Peemai loves eating sun-dried raisins.
(ปีใหม่รักการกินลูกเกดตากแห้ง)

Noun
+
Present
Participle

มี hyphen

-I bought some
mouth-watering watermelon.
(ฉันซื้อแตงโมที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำมาด้วย)

-That was a record-breaking race.
(นั่นเป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อทำลายสถิติ)

Noun
+
Adjective

มี hyphen

-She is a world-famous dancer.
(เธอเป็นนักเต้นที่โด่งดังระดับโลก)

-This is a smoke-free area.
(ตรงนี้คือเขตปลอดบุหรี่)

Adjective
+
Noun

มี hyphen

-It was a last-minute decision.
(มันคือการตัดสินใจในช่วงนาทีสุดท้าย)

-Tim watched the full-length version
of the movie.
(ทิมไปดูฉบับเต็มของภาพยนต์เรื่องนี้มา)

Adjective
+
Past
Participle

มี hyphen

-That is an old-fashioned cupboard.
(นั่นเป็นชั้นวางที่ดูล้าสมัยนะ)

-Reptiles are cold-blooded creatures.
(สัตว์เลื้อยคลานเป็นสัตว์เลือดเย็น)

Adjective
+
Present
Participle

มี hyphen

-She is a good-looking girl.
(เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูดีคนหนึ่ง)

-It left a long-lasting taste
in my mouth.
(มันทิ้งรสชาติที่ยาวนานไว้ในปากของฉัน)

Compound
Adjectives
with
Proper Nouns

ไม่มี hyphen และ
ต้องใช้อักษรพิมพ์ใหญ่

-I bought the Maroon 5 tickets for us.
(ฉันไปซื้อตั๋ววง Maroon 5 สำหรับพวกเรามาด้วย)

*ถ้าเป็นชื่อเฉพาะ ห้ามใส่ hyphen (-)

*สิ่งที่วิเศษมากในการใช้ compound adjective คือมันไม่มีกฎว่าห้ามใช้คำไหน ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้พูดว่าอยากจะสื่อถึงคำนามนั้น ๆ ว่าเป็นอะไรหรือยังไง ง่าย ๆ ก็คือ อยากได้ adjective ที่มีความหมายใหม่ ก็สามารถประสมคำได้เองเลยเพื่อใช้ขยายคำนาม แต่ต้องอย่าลืม hyphen (-) และอย่าลืมว่าถ้าเป็นชื่อเฉพาะจะไม่สามารถใช้ในรูปแบบ compound adjective ได้ แม้จะเกิดจากการประสมคำก็ตาม

ฝากตัวอย่างขำ ๆ ไว้ ในเรื่องของการใช้เครื่องหมายวรรคตอนผิด ความหมายก็เปลี่ยนทันที

A gas-consuming car.
(รถที่กินน้ำมัน)
= ก็ปกตินิ
A gas consuming car.
(น้ำมันกำลังกินรถอยู่)
= เดี๋ยวนะ น้ำมันมีชีวิตแล้วกินรถเป็นอาหาร?!