ภูมิปัญญาชาวบ้านสามารถจำแนกออกได้หลายประการตามประโยชน์ใช้สอย และสามารถจำแนกแยกย่อยได้หลายประการแตกต่างกันไปตามกลุ่มชน กาลเวลา และสถานที่ ส่วนเทคโนโลยีท้องถิ่น เป็นผลงานการประดิษฐ์หรือประยุกต์เครื่องมือเครื่องใช้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและประโยชน์ใช้สอยของงานแต่ละประเภท
เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่รอด เป็นภูมิปัญญาที่เกี่ยวกับการแสวงหาปัจจัยพื้นฐาน นำมาซึ่งการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือเครื่องใช้ ภูมิปัญญาประเภทนี้ปรากฏให้เห็นในชีวิตประจำวัน มีการปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลานาน รวมทั้งมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ได้แก่
1) ภูมิปัญญาเกี่ยวกับการผลิตและแสวงหาอาหาร ลักษณะภูมิประเทศเป็นปัจจัยเกื้อกูลต่อการผลิตอาหารเพื่อการยังชีพ ในบางท้องถิ่น การทำประมงรูปแบบต่าง ๆ ก็ต้องเข้าใจถึงสภาวะแวดล้อม คิดค้นเครื่องมือดักจับให้เหมาะสมกับแหล่งน้ำ
2) ที่อยู่อาศัย การสร้างที่อยู่อาศัยต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศตามแต่ละท้องถิ่น การใช้วัสดุการออกแบบ เช่น บ้านเรือนไทยในแต่ละภาคที่มีเอกลักษณ์ต่างกันตามสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศ อาทิ ในภาคใต้นิยมสร้างบ้านแบบก่ออิฐถือปูนเพื่อป้องกันน้ำเค็มจากทะเลและความชื้นที่อาจทำให้ไม้ผุพังได้ง่าย และป้องกันลมพายุมรสุม
3) เครื่องนุ่งห่ม แต่ละท้องที่มีวัตถุดิบที่แตกต่างกัน รวมถึงสภาพอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เครื่องนุ่งห่มแต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน และอาจจะผนวกกับความเชื่อต่าง ๆ เช่น สีที่เป็นมงคล การแต่งตัวตามวันต่าง ๆ
4) ยารักษาโรค เป็นภูมิปัญญาที่ผ่านการสะสมเป็นเวลานาน ผ่านการลองผิดลองถูก จนเกิดความเข้าใจในสรรพคุณของพืช สัตว์ และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ยาลูกกลอน ยาต้ม ลูกประคบ ดีงูเหลือม การเข้าเฝือกด้วยไม้ไผ่ การห้ามกินของแสลงต่าง ๆ
1) การจัดระเบียบสังคม การร่วมกันออกแบบสังคม เช่น การสร้างสิ่งสาธารณะ บ่อน้ำ ศาลาการเปรียญ วัด การตกลงกันเพื่อสร้างกติกาของสังคม การเลือกผู้นำเพื่อดูแลความสงบสุข การยอมสละสิทธิบางส่วนเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลให้เกิดเป็นกฎหมาย กติกาของบ้านเมือง
2) การล่วงรู้ถึงสภาพดินฟ้าอากาศ ทำให้เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะตามมา เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของเราได้ หรือออกแบบสิ่งปลูกสร้างให้ทนต่อสภาพอากาศต่าง ๆ เช่น หากแม่น้ำมีสีเข้ม แสดงถึงว่าน้ำป่ากำลังจะมา ให้อพยพคนขึ้นที่สูง หรือหากแผ่นดินไหว แล้วน้ำทะเลลดเฉียบพลัน แสดงว่าสึนามิกำลังมา เป็นต้น
3) ความรู้เรื่องคุณลักษณะธรรมชาติของสัตว์ การนำสัตว์มาเพื่อใช้งานในการตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ในการทุ่นแรง เช่น การใช้ม้าในการทำศึกสงครามเพราะรวดเร็ว การใช้ช้างลากของหนักเพราะมีพละกำลังมาก
4) การต่อสู้กับศัตรูและการใช้อาวุธ การเรียนรู้ที่จะใช้แร่ธาตุโลหะ หิน ไม้ ในการสร้างอาวุธ เช่น ธนู, ดาบ, มีด, กริช, ขวาน, หอก, ปืน, ปืนใหญ่ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ผ่านการเรียนรู้สะสมจนเกิดเป็นวิทยาการ อีกทั้งยังใส่เอกลักษณ์ท้องถิ่น ความเชื่อต่าง ๆ ผ่านลวดลายบนอาวุธ เช่น มีการลงยันต์ หรือ ลายกระหนกเพื่อความสวยงาม
1) งานศิลปะด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรม เป็นงานฝีมือชั้นสูงที่ต้องใช้ภูมิปัญญา ผสมกับจินตนาการ เทคนิคต่าง ๆ เพื่อสร้างความสวยงาม ความมีคุณค่าที่แฝงไว้ในงาน ส่วนมากเกี่ยวเนื่องกับศาสนาที่มีอิทธิพลต่อชุมชนนั้น ๆ
2) งานด้านภาษาและวรรณกรรม เป็นสิ่งที่ให้คุณค่าด้านอารมณ์ สามารถสื่อความรู้สึกหลายด้าน ผลงานเหล่านี้จะปรากฏในนิยาย, หนังตะลุง, ลิเก, นิทานพื้นบ้าน เป็นต้น เป็นผลงานที่ทรงคุณค่า ให้ความบันเทิงและช่วยจรรโลงสังคม
3) งานศิลปะการแสดงและดนตรี เป็นภูมิปัญญาที่ใช้ความสามารถเฉพาะบุคคลเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ การแสดงและดนตรี แสดงให้เห็นถึงภูมิความรู้ ความสามารถหรือความเป็นอัจฉริยะของนักแสดงและนักดนตรีได้เป็นอย่างดี
4) งานศิลปหัตถกรรม เป็นการสร้างผลงานต่าง ๆ ทางด้านช่างฝีมือเพื่อประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวัน ผลงานศิลปหัตถกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นงานศิลปะที่เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ผลงานเหล่านี้ล้วนเป็นภูมิปัญญาความรู้ความสามารถของชาวบ้านแทบทั้งสิ้น