หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (ชุดที่ 1)

HARD

หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (ชุดที่ 2)

เนื้อหา

หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปอย่างมากเนื่องจากความต้องการของมนุษย์ ทำให้สภาพระบบนิเวศเสื่อมโทรมลงดังนั้นการอนุรักษ์ธรรมชาติให้ดำรงอยู่พร้อมไปกับการที่มนุษย์ยังคงสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน

หลักการอนุรักษ์ มีดังนี้

  • การใช้ทรัพยากรแบบยั่งยืน คือ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น การใช้ซ้ำ (reused) และ ลดปริมาณการใช้ให้น้อยลง (reduced) รวมถึงการนำกลับมาใช้ใหม่โดยการแปรสภาพของที่ใช้แล้ว (recycle) เพื่อลดมลพิษที่เกิดกับสิ่งแวดล้อมลง
  • การเก็บกัก คือ การเก็บทรัพยากรธรรมชาติที่อาจขาดแคลนไว้สำหรับอนาคตเนื่องจากในบางช่วงทรัพยากรบางอย่างมีมากเกินไปแต่ในบางช่วงก็ขาดแคลน ดังนั้นจำเป็นต้องเก็บบางส่วนไว้เพื่อใช้ในเวลาที่ขาดแคลน
  • การรักษาซ่อมแซม เมื่อทรัพยากรถูกทำลายจำเป็นต้องมีการซ่อมแซมบำรุงให้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การเพาะพันธุ์สัตว์ป่า
  • การฟื้นฟู เมื่อทรัพยากรเสื่อมโทรมลง จำเป็นต้องฟื้นฟูให้กลับมาใกล้เคียงเดิมเพื่อรักษาระบบนิเวศให้ยังคงสภาพอยู่ได้ เช่น การปลูกป่า หรือสร้างแนวปะการังเทียม เป็นต้น
  • การป้องกัน เป็นการป้องกันทรัพยากรที่ถูกทำลายหรือมีแนวโน้มถูกทำลายให้อยู่ในสภาพปกติหรือใกล้เคียงที่สุด โดยการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ หรือให้กฏหมายควบคุมทรัพยากรแต่ละชนิด เช่นการขึ้นทะเบียนสัตว์ป่าสงวน 

สัตว์ป่าสงวน

      สัตว์ป่าสงวน หมายถึง สัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ 19 ชนิด ตามที่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ระบุไว้ 15 ชนิดได้แก่

  1. นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร (Pseudochelidon sirintarae)
  2. แรดชวา (Rhinoceros sondaicus)
  3. กระซู่ (Dicerorhinus sumatrensis)
  4. กูปรีหรือโคไพร (Bos sauveli)
  5. ควายป่า (Bubalus bubalis)
  6. ละอง หรือละมั่ง (Rucervus eldi)
  7. สมัน หรือเนื้อสมัน (Rucervus schomburki)
  8. เลียงผา หรือเยือง หรือกูรำ หรือโครำ (Capricornis sumatraensis)
  9. กวางผาจีน (Naemorhedus griseus)
  10. นกแต้วแล้วท้องดำ (Pitta gurneyi)
  11. นกกระเรียนไทย (Grus antigone)
  12. แมวลายหินอ่อน (Pardofelis marmorata)
  13. สมเสร็จ (Tapirus indicus)
  14. เก้งหม้อ (Muntiacus feai)
  15. พะยูน หรือหมูน้ำ​ (Dugong dugon)

และในปี 2550 ได้มีการเพิ่มเติมสัตว์เข้าไปอีก 4 ชนิดได้แก่ 

  1. วาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni)
  2. วาฬโอมูระ (Balaenoptera omurai)
  3. เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea)
  4. ฉลามวาฬ (Rhincodon typus)

สัตว์ป่าคุ้มครอง

    สัตว์ป่าคุ้มครอง หมายถึง สัตว์ป่าที่มีจำนวนน้อย มีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกคุกคามหรือ สูญพันธุ์ได้ในอนาคต เพื่อประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ จำมีการเสนอรายชื่อสัตว์ป่าตามบัญชีแนบท้าย กฎกระทรวง กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

ข้อห้ามข้อบังคับบางประการ จากพระราชบัญญัติที่ควรทราบ มีดังนี้

  1. สัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เป็นสัตว์ป่าที่ห้ามล่า พยายามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าไม่ว่าชนิดใด ห้ามล่าสัตว์ เก็บรัง ครอบครองที่ดิน แผ้วถาง หรือเปลี่ยนแปลงแหล่งน้ำ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  3. ห้ามครอบครองสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ในกรณีที่สัตว์ที่ครอบครองเป็นสัตว์ที่มาจากการเพาะพันธุ์ที่ไม่ถูกต้อง จะต้องโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  4. ห้ามเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    ในกรณีที่การล่าเป็นการล่าเพื่อปกป้องตนเองหรือผู้อื่นหรือทรัพย์สิน หรือเหตุอื่นที่เห็นว่าเป็นการกระทำที่ควรแก่เหตุ ไม่ต้องรับโทษ
  5. การห้ามการครอบครองและห้ามค้า มีผลไปถึงไข่และซากของสัตว์เหล่านั้นด้วย
  6. ห้ามเก็บหรือทำอันตรายรังของสัตว์ ยกเว้นรังนกนกแอ่นกินรัง ซึ่งต้องได้รับอนุญาตเช่นกัน
    โดยปัจจุบันมีสัตว์ป่าคุ้มครองทั้งหมดเมื่อแบ่งตามประเภทกลุ่มสัตว์ได้ดังนี้
  • สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน 201 ชนิด
  • นก จำนวน 952 ชนิด
  • สัตว์เลื้อยคลาน จำนวน 91 ชนิด
  • สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก จำนวน 12 ชนิด
  • แมลง จำนวน 20 ชนิด
  • ปลา จำนวน 14 ชนิด
  • สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ จำนวน 12 ชนิด


ทีมผู้จัดทำ