ไบโอมบก ไบโอมน้ำ
ไบโอม (biomes) หรือชีวนิเวศ คือ ระบบนิเวศใดก็ตามที่มีองค์ประกอบของปัจจัยทางกายภาพ และ ปัจจัยทางชีวภาพ ที่คล้ายกัน เช่น มีอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณน้ำฝนที่ใกล้เคียงกัน มีชนิดของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. ไบโอมบนบก ( Terrestrial biomes ) และ 2. ไบโอมในน้ำ ( Aquatic biomes )
https://www.pinterest.com/pin/379357968592563959/
ไบโอมบนบก (Terrestrial biomes) ใช้เกณฑ์ปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิเป็นตัวกำหนดไบโอมบนบกที่มีอยู่ในโลกนี้แบ่งออกได้หลายไบโอม แต่ไบโอมบนบกที่สำคัญ ที่จะกล่าวถึงได้แก่ไบโอมป่าดิบชื้น ไบโอมป่าผลัดใบในเขตอบอุ่น ไบโอมทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น ไบโอมสะวันนา ไบโอมป่าสน ไบโอมทะเลทรายและไบโอมทุนดรา เป็นต้น

- ป่าดิบชื้น (Tropical Rainforest) ใกล้เขตเส้นศูนย์สูตรของโลก มีอากาศร้อนและชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส มีฝนตกชุกตลอดปีเกือบตลอดปี มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดเฉลี่ย 200-400 เซนติเมตรต่อปี พบพืชและสัตว์หลากหลายพันสปีชีส์ จัดเป็น “ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด” สัตว์ที่พบมาก: สมเสร็จ แรด กระจง เก้ง, พืชเด่น: ไม้เถา หวาย เฟิร์น กล้วยไม้ และ ตัวอย่างในไทย: ป่าฮาลา – บาลา นราธิวาส, อุทยานแห่งชาติไทรโยค กาญจนบุรี
- ป่าผลัดใบในเขตอบอุ่น (Temperate deciduous forest) พบกระจายทั่วละติจูดกลางปริมาณความชื้นเพียงพอที่ต้นไม้ใหญ่จะเจริญเติบโตได้ดีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 100 เซนติเมตรต่อปี และมีอากาศค่อนข้างเย็น ผลัดใบก่อนฤดูหนาว พืชที่พบ: ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ล้มลุก เมเปิล โอ๊ก ยูคาลิปตัส เชลท์นัท, สัตว์ที่พบ: กวางเอลก์ สุนัขจิ้งจอก ตัวตุ่น และ บริเวณที่พบในไทย: อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก
- ป่าสน (Coniferous forest) ไม่ผลัดใบ เป็นป่าเขตหนาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกและจัดเป็นสังคมสิ่งมีชีวิตบนบกที่มีขนาดกว้างใหญ่กว่าไบโอมอื่น ๆละติจูดตั้งแต่ 45 – 67 องศาเหนือ มีอากาศเย็นและแห้ง ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 25-75 เซนติเมตรต่อปี ส่วนใหญ่จะตกในฤดูร้อน พืชที่พบ : เป็นไม้เนื้ออ่อน จำพวกไพน์ (pine) เฟอ (fir) สพรูซ (spruce) เฮมลอค (hemlock), สัตว์ที่พบ : นกฮูกเทาใหญ่ กวางเอลก์ หมีสีน้ำตาล ฮันนี่แบดเจอร์ บีเวอร์ และบริเวณที่พบในไทย : ป่าสนวัดจันทร์ จังหวัดเชียงใหม่, อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
- ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น (Temperate grassland) ในเขตยูเรเชีย เรียก สเต็ปป์ (steppe) มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 25 – 50 เซนติเมตรต่อปีมักมีฝนตกในช่วงฤดูร้อน และแห้งแล้งในฤดูหนาว เหมาะสำหรับการทำกสิกร และ ปศุสัตว์เพราะดินมีความอุดมสมบูรณ์สูงมีหญ้าหลายชนิดขึ้นอยู่ พืชที่พบ:เบาบับ (baobab) กระถิน (acacia) และ สัตว์ที่พบ: ช้าง ม้าลาย สิงโตในแอฟริกา หมีโคลา จิงโจ้ และนกอีมูในออสเตรเลีย
- ทุ่งหญ้าสะวันนา (Savanna) มีอากาศร้อนในฤดูร้อนมักเกิดไฟป่า ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 30 – 50 เซนติเมตรต่อปี ดินในพื้นที่สะวันนามีลักษณะแห้ง แข็ง และมีฝุ่นมาก มีต้นไม้กระจายอยู่ห่างๆ กัน ทุ่งสะวันนาในทวีปแอฟริกาเป็นพื้นที่ที่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่หลากหลายสายพันธุ์มากที่สุดในโลก พืชที่พบ : ต้นอาเคเชีย (Acacia) ต้นเบาบับ (Baobab)และหญ้า, สัตว์ที่พบ : ละมั่ง ควายป่า นกกระจอกเทศ ช้าง แรด ยีราฟ สิงโต เสือดาว ไฮยีน่า และ บริเวณที่พบในไทย : อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดตาก
- ทะเลทราย (Desert) มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยน้อยกว่า 25 เซนติเมตรต่อปีจัดเป็นไบโอมที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยที่สุด บางแห่งอาจมีอุณหภูมิเหนือผิวดินสูงถึง 60 องศาเซลเซียสตลอด และบางแห่งมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นพืชมีการป้องกันการสูญเสียน้ำ โดยใบลดรูปเป็นหนาม ลำต้นอวบ เก็บสะสมน้ำดี สัตว์ส่วนใหญ่หากินกลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อนในตอนกลางวัน, พืชที่พบ: กระบองเพชร อินทผาลัม และ สัตว์ที่พบ: งู กิ้งก่า สปริงบ็อก อูฐ หมาจิ้งจอกทะเลทราย กิ้งก่าหนาม
- ทุนดรา (Tundra) ละติจูดที่ 60 เหนือขึ้นไปจนถึงขั้วโลกอุณหภูมิในฤดูร้อนเฉลี่ยต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสส่วนในฤดูหนาวมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งยาวนานกว่า 6 เดือน ฝนตกน้อยมาก ปริมาณหยาดน้ำฟ้าประมาณ 500 มิลลิเมตร ชุมชนแบบทุนดราเป็นชุมชนแบบง่ายๆ ไม่ยั่งยืนและไม่สมดุล จึงทำให้พบพืชและสัตว์อาศัยอยู่น้อยกว่าไบโอมอื่น ๆ พืชที่พบ : มอส กก หญ้าเซดจ์ (Sedge) และไม้พุ่มเตี้ย เช่น วิลโลแคระ และสัตว์ที่พบ : กวางคาริบู กวางเรนเดียร์ กระต่ายป่าขั้วโลก หนูเลมมิง สุนัขป่าขั้วโลก นกทามิแกน นกเค้าแมวหิมะ

ไบโอมน้ำ (Aquatic biomes) ที่พบเป็นองค์ประกอบหลักใบไบโอสเฟียร์ประกอบด้วย ไบโอมแหล่งน้ำจืด (Freshwater biomes) และไบโอมแหล่งน้ำเค็ม (Marine Biomes) และพบกระจายอยู่ทั้งเขต ภูมิศาสตร์ในโลกนี้
- ไบโอมแหล่งน้ำจืด (Freshwater biomes) มีเกลือน้อยกว่าร้อยละ 0.1 หรือน้อยกว่า 1 ppt ไบโอมแหล่งน้ำจืดจะแตกต่างจากน้ำเค็มตรงที่ไม่มีน้ำขึ้นน้ำลงเป็นปัจจัยกายภาพสำคัญ มีความสำคัญมากเนื่องจากเราต้องใช้น้ำในการอุปโภค-บริโภค พืชที่พบ: จอก สาหร่าย แหน และ สัตว์ที่พบ: หอย ปลาต่าง ๆ กุ้ง
- ไบโอมแหล่งน้ำเค็ม (Marine) มีเกลือเฉลี่ยร้อยละ 3.5 หรือ 35 ppt ประกอบด้วยทะเลและมหาสมุทรซึ่งพบในปริมาณมากถึงร้อยละ 71 ของพื้นที่ผิวโลก พืชที่พบ:ไม้โกงกาง แสม ลำพู, สัตว์ที่พบ: แมลงสาบทะเล หอยนางรม ลิ่มทะเล หอยหมวกเจ๊ก เม่นทะเล ปูลม และ บริเวณที่พบในไทย: หมู่เกาะพีพีและหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง