อาณาจักรฟังไจ

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

อาณาจักรฟังไจ (ชุดที่ 1)

HARD

อาณาจักรฟังไจ (ชุดที่ 2)

เนื้อหา

อาณาจักรฟังไจ (Kingdom Fungi)


       สิ่งมีชีวิตในกลุ่มนี้นั้นพบได้ทั้งเซลล์เดียวและหลายเซลล์ ยังไม่มีการพัฒนาเป็นเนื้อเยื่อ มีความแตกต่างจาก
eukaryote กลุ่มอื่น ๆ ทั้งด้านการหาอาหาร การเจริญ และการสืบพันธุ์ จากหลักฐาน พบว่าฟังไจเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 460 ล้านปีก่อน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พืชเริ่มดำรงชีวิตบนบก

ลักษณะร่วมของฟังไจ 

  • ผนังเซลล์มี chitin เป็นส่วนประกอบ
  • การดำรงชีวิตใช้การย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิตอื่น หรือเป็นปรสิตในสิ่งมีชีวิตอื่น
  • ฟังไจส่วนใหญ่มีโครงสร้างเป็นเส้นใย Hypha โดยเส้นใยอาจมีเยื่อกั้นหรือไม่มีเยื่อกั้น กลุ่มของเส้นใยเรียกว่า Mycelium ทำหน้าที่ยึดเกาะและส่งเอนไซม์ไปย่อยสลายอาหารจากภายนอกเซลล์ ก่อนจะดูดซึมสารอาหารที่ย่อยแล้วเข้าสู่เซลล์
  • ฟังไจหลายชนิดจะพัฒนาโครงสร้างที่เรียกว่า fruiting body ทำหน้าที่สร้าง spore เพื่อใช้ในการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ 

การจัดกลุ่มฟังไจ

       ฟังไจมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและอาศัยเพศได้ ดังนั้นการจัดกลุ่มฟังไจนั้นจะใช้วิธีการสืบพันธุ์เป็นเกณฑ์ ส่วนฟังไจบางชนิดที่ยังไม่พบกระบวนการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจะจัดไปอยู่ในกลุ่ม imperfect fungi เช่น
ราเพนนิซีเลี่ยม 
(Penicillium sp.) ในปัจจุบันจะจัดกลุ่ม
ฟังไจออกเป็น
4 phylum คือ

1. Phylum Chytridiomycota

เป็นกลุ่มฟังไจที่มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศโดยการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ที่มี flagella ในการเคลื่อนที่คล้ายกับสิ่งมีชีวิตในกลุ่ม Protista ฟังไจกลุ่มนี้พบได้ทั้งในดินและในน้ำ

  • หลายชนิดทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์
  • ในขณะที่หลายชนิดเป็นปรสิตในสิ่งมีชีวิตอื่น
  • บางชนิดที่ดำรงชีวิตแบบไม่ใช้ O2 หรือเป็น anaerobic จะอาศัยในระบบทางเดินอาหารของสัตว์กินพืช แล้วช่วยในการย่อยสลายทำให้สัตว์เหล่านั้นได้รับสารอาหารไปด้วย เป็นรูปแบบการอาศัยแบบพึ่งพา

2. Phylum Zygomycota

เป็นกลุ่มฟังไจที่อาศัยบนพื้นดิน ฟังไจกลุ่มนี้นั้นจะไม่มีเยื่อกั้นในเส้นใย ในสภาพปกติจะใช้สปอร์ในการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ แต่เมื่อสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมจะเปลี่ยนไปอาศัยการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยสร้าง zygospore จากเส้นใยของเชื้อราอีกเส้นหนึ่ง ตัวอย่าง เช่น ราดำ (Rhizopus sp.)

3. Phylum Ascomycota

เป็นกลุ่มของฟังไจที่พบมากที่สุดพบได้ทั้งในทะเล น้ำจืด และพื้นดิน มีทั้งเป็นเซลล์เดียว เช่น ยีสต์ และหลายเซลล์ เช่น morel และ truffle

กลุ่มนี้เส้นใย hypha จะมีเยื่อกั้นแต่มีช่องระหว่างเซลล์เพื่อนำส่งสารอาหารไปมาได้ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศโดยการสร้างสปอร์เรียกว่า conidia ที่ปลายไฮฟา ส่วนยีสต์จะแตกหน่อ แต่การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจะสร้าง ascospore ภายในถุง ascus ในโครงสร้างรูปถ้วย

4. Phylum Basidiomycota

เส้นใยในกลุ่มนี้จะมีเยื่อกั้นอย่างสมบูรณ์ มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการสร้าง Basidiospore ในโครงสร้างของ fruiting body ขนาดใหญ่

รากลุ่มนี้จะทำหน้าที่สลายสารอินทรีย์ต่าง ๆ เช่น ลิกนิน ตัวอย่างราในกลุ่มนี้ เช่น ราสนิม เห็ดชนิดต่าง ๆ เช่น
เห็ดหอม เห็นนางฟ้า เห็ดหูหนู
เป็นต้น