- มีนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการที่สำคัญ มีภารกิจในการสงวน อนุรักษ์ และฟื้นฟู เพื่อดำรงสภาพสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และจัดการการใช้ประโยชน์
- จัดทำระเบียบ กฎเกณฑ์ และระบบการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน ท้องถิ่น และประชาชนทุกกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ
- สร้างกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้ชุมชน และประชาชนทุกฝ่ายมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น
มีการปรับแผนการดำเนินงานเกี่ยวกับการเกษตรที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมในเขตปฏิรูปที่ดิน การสำรวจคุณภาพดินและวางแผนการใช้ที่ดินเพื่อการใช้ประโยชน์ในระยะยาว
มีภารกิจทางด้านดำเนินการสำรวจเขตที่ดินของรัฐให้ทราบถึงขอบเขต ประเภท ตำแหน่ง และดูแลดำเนินการคุ้มครองที่ดินอันเป็นสมบัติหรือทรัพย์สินของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2533 โดย ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ต่อสาธารณชน ในเรื่องสิ่งแวดล้อมของไทย ผ่านสื่อหลากรูปแบบเพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย ตัวอย่างโครงการเช่น โครงการนักสืบสายน้ำ นักสืบชายหาด นักสืบสายลม ใช้การสังเกตสิ่งมีชีวิต ในน้ำจืด น้ำทะเล และพื้นที่ธรรมชาติรอบตัว เป็นเครื่องมือชี้วัดสภาวะแวดล้อม โดยใช้เครื่องมือง่าย ๆ เช่น แว่นขยาย และคู่มือสำรวจ
แหล่งกำเนิดมลพิษที่ก่อให้เกิดหรือเป็นแหล่งกำเนิดของการรั่วไหลหรือแพร่กระจายมลพิษอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัย หรือเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นหรือของรัฐเสียหาย เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษนั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหาย รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ทางราชการต้องรับภาระจ่ายจริงในการขจัดมลพิษที่เกิดขึ้นนั้นด้วย ยกเว้นการรั่วไหลหรือการแพร่กระจายของมลพิษนั้นพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือสงคราม การกระทำตามคำสั่งของรัฐหรือการกระทำของผู้ที่ได้รับอันตรายหรือความเสียหายเองหรือของบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง หรือโดยอ้อมในการรั่วไหล หรือการแพร่กระจายของมลพิษนั้น
ผู้ที่กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทำลายหรือทำให้ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐหรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสูญหายหรือเสียหาย ต้องรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไป
ผู้ที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือขัดขวางการกระทำใด ๆ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีหรือผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้สั่งเพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขอันตรายจากเหตุฉุกเฉินหรือภยันตรายต่อสาธารณชน อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ หรือภาวะมลพิษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้ฝ่าฝืนเป็นผู้ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายจากภาวะมลพิษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ที่บุกรุกหรือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าไปกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลาย ทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติหรือศิลปกรรมอันควรแก่การอนุรักษ์ หรือก่อให้เกิดมลพิษอันมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ที่เผยแพร่หรือให้ข่าวที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับแหล่งอันตรายจากแหล่งกำเนิดมลพิษโดยมีเจตนาที่จะทำลายชื่อเสียงหรือความไว้วางใจของสาธารณชนต่อการดำเนินกิจการโดยชอบด้วยกฎหมายของแหล่งกำเนิดมลพิษนั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเผยแพร่หรือให้ข่าวทางสื่อมวลชน ผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ยินยอมหยุดยานพาหนะให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ มีโทษจำคุก 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษที่ไม่จัดส่งน้ำเสียหรือของเสียที่เกิดจากการดำเนินกิจการของตนไปทำการบำบัด หรือกำจัดโดยระบบบำบัดน้ำเสียรวมหรือระบบกำจัดของเสียรวมที่มีอยู่ในเขตควบคุมมลพิษหรือเขตท้องที่นั้น และไม่เสียค่าบริการตามอัตราที่กำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ