สถานการณ์และวิกฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับนานาชาติ
สถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับนานาชาติ ได้แก่
1. สถานการณ์ทรัพยากรดิน
ดินที่ใช้เพาะปลูกมีการเพาะปลูกบ่อยครั้งยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง วัชพืช ทำให้ดินเสื่อมโทรมเร็วปัญหาความแห้งแล้งทำให้กลายเป็นทะเลทราย ปัญหาการเกิดดินเค็ม ปัญหาใช้ที่ดินผิดประเภท เช่น พื้นที่เหมาะสมทำการเกษตรไปใช้ปลูกสร้าง เป็นต้นการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ทำให้ดินเสื่อมโทรม ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก
2. สถานการณ์ทรัพยากรน้ำ
ปัญหาความแห้งแล้ง โดยเฉพาะแอฟริกาและเอเชีย ในหลายประเทศแก้ปัญหาโดยการสร้างเขื่อนช่วยควบคุมปริมาณน้ำปัญหาน้ำเน่าเสีย จากการพัฒนาอุตสาหกรรม การโรงแรม การเพิ่มขึ้นของชุมชนเมืองสารพิษที่ปล่อยสู่บรรยากาศ หรือจากการเกษตร ในที่สุดแล้วจะไปรวมสะสมกันในทะเลและมหาสมุทร ซึ่งทำให้ปลาว่ายมาตายที่ชายหาดอยู่เสมอปัญหาคุณภาพน้ำบาดาลถูกปนเปื้อน โดยธรรมชาติ และจากการกระทำของมนุษย์ และปัญหาการใช้น้ำบาดาลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
3. สถานการณ์ป่าไม้และสัตว์ป่า
การตัดไม้ทำลายป่าเป็นไปอย่างกว้างขวางในทุกบริเวณของโลก การปลูกป่าทดแทนไม่สามารถทำได้ทันกับที่ถูกทำลายไปป่าไม้ลดลงทำให้สัตว์ป่าขาดที่อยู่อาศัยและขาดแหล่งอาหาร จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์สูงภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อปัญหาความแห้งแล้งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อการดำรงชีพทั้งมนุษย์และสัตว์มีการทำลายพื้นที่ลุ่มน้ำและแนวปะการังเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้น
4. สถานการณ์ด้านพลังงาน
ปัจจุบันโลกใช้พลังงานจากน้ำมันเป็นหลัก แต่การใช้พลังงานจากน้ำมันสร้างมลพิษแก่สิ่งแวดล้อม จึงมีการรณรงค์ให้ใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และพลังงานชีวภาพมากขึ้นน้ำมัน ซึ่งเกิดจากการทับถมของสิ่งมีชีวิตใต้ดินหรือใต้ทะเลสาบเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี ซึ่งใช้แล้วหมดไป แต่ในการสำรวจเพื่อคำนวณปริมาณสำรองไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน เนื่องจากบางบริเวณยังไม่ถูกสำรวจพบ แต่มีการประมาณการว่าปริมาณสำรองกว่าครึ่งหนึ่งของโลกอยู่ในแถบตะวันออกกลางโดยมีประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปก (OPEC) ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่สำคัญของโลกเป็นผู้กำหนดปริมาณการผลิตร่วมกันซึ่งเป็นการกำหนดราคาโดยทางอ้อมแก๊สธรรมชาติ มีแหล่งกำเนิดเช่นเดียวกับน้ำมันแต่แยกตัวอยู่ในรูปของแก๊ส ซึ่งปัจจุบันมีการใช้แก๊สธรรมชาติเป็นพลังงานถึงร้อยละ 36.5 ของพลังงานที่ใช้อยู่พลังงานปรมาณู หรือพลังงานนิวเคลียร์ นำมาใช้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า เพราะให้พลังงานมากกว่าเชื้อเพลิงอื่น และค่าใช้จ่ายในระยะยาวที่ถูกกว่า แต่ก็มีปัญหาการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีอยู่บ่อยครั้งถ่านหิน เป็นเชื้อเพลิงที่เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ใต้พื้นดินโดยถูกกดทับอัดเป็นถ่าน เป็นพลังงานที่มีปริมาณมาก และราคาถูก แต่มักมีปริมาณกำมะถันปนอยู่ อาจทำให้เกิดฝนกรด หากไม่มีการจัดการที่ดีพลังงานน้ำ พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานลม ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
วิกฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับนานาชาติ
- ปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกได้สะสมขึ้นตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อ 200 ปีที่ผ่านมา
- มีการนำพลังงานถ่านหินและน้ำมันมาใช้เป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อการขาดแคลนพลังงานในอนาคต
- การพัฒนาการเกษตรยุคใหม่ได้หันมาใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ซึ่งส่งผลให้สารเคมีแพร่กระจายไปในน้ำ อากาศ ดิน และห่วงโซ่อาหาร
- การเกิดภาวะฝนแล้งและอุณหภูมิของโลกที่ร้อนขึ้น เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และการดำรงชีวิตของมนุษย์
- การเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CFCs ทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น
- ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ เช่น แนวปะการังตามแนวมหาสมุทรอินเดียตาย เกิดไฟป่าทำให้สูญเสียป่าไม้และสัตว์ป่า และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
- ปัญหาน้ำเสียโดยการชะล้างสารพิษในอากาศของน้ำฝนหรือหิมะ และโรงงานอุตสาหกรรม เป็นการทำลายแหล่งน้ำทั้งบนดินและน้ำใต้ดิน
- ปัญหามลพิษทางด้านอากาศ จากการเผาไหม้ถ่านหินในโรงงานอุตสาหกรรม เกิดก๊าซซัลเฟอร์ได้ออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ หรือสารพิษจากการเผาไหม้ของน้ำมันรถยนต์ ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ระบบหมุนเวียนโลหิต และระบบประสาท
- การสูญเสียป่าไม้จากการตัดไม้ไปใช้เป็นสินค้า ขยายพื้นที่อยู่อาศัย เพาะปลูก และการเกิดไฟป่า ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า จึงทำให้สัตว์ป่าลดลงหรือสูญพันธุ์