ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้น จึงควรศึกษา เรียนรู้ เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการเกิดของแผ่นดินไหวที่แท้จริง เพื่อเป็นแนวทางในการลดความเสียหายที่เกิดขึ้น
1. การเกิดตามธรรมชาติ อันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก หรือการระเบิดของภูเขาไฟ 2. การกระทำของมนุษย์ เช่น การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ อาจส่งผล กระทบได้เช่นกัน แต่ก็ยังถือว่าส่งผล กระทบน้อยมากเมื่อเทียบกับสาเหตุทางธรรมชาติแผ่นดินไหวมักเกิดขึ้นในบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก (แผ่นธรณี) เนื่องจากเป็นบริเวณที่เกิดกระบวนการธรณีแปรสัณฐาน 3 ลักษณะ คือ
แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบนโลกส่วนใหญ่จะเกิดบ่อยในบริเวณที่มีการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 แบบ บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก แต่ส่วนมากจะเกิดตามแนวชนกันของเปลือกโลกรอบมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกแนวนี้ว่า แนววงแหวนแห่งไฟ (Ring of fire) ซึ่งรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกบริเวณนี้จะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง
การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีทั้ง 3 แบบ จะทำให้เกิดแนวระนาบรอยเลื่อน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว ถ้าระนาบรอยเลื่อนยังคงมีการเคลื่อนที่ จะเรียกว่า “รอยเลื่อนมีพลัง (active fault zone)” เราสามารถแบ่งประเภทของรอยเลื่อนได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
แผ่นดินไหว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเคลื่อนตัวของชั้น หินในเปลือกโลก เมื่อชั้นหินกระทบกันทำเกิดคลื่นไหวสะเทือน (Seismic waves) เราเรียกจุดกำเนิดของคลื่นไหวสะเทือนว่า "ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว" (Focus) และเรียกตำแหน่งบนผิวโลกที่อยู่เหนือจุดกำเนิดของคลื่นแผ่นดินไหวว่า "จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว" (Epicenter) ซึ่งมักจะใช้อ้างอิงด้วยพิกัดละติจูด / ลองจิจูด เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะเกิดคลื่นไหวสะเทือน 2 แบบ คือ คลื่นในตัวกลางและคลื่นพื้นผิว