ลำดับและอนุกรม
ความหมายลำดับ
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การหาพจน์เจาะจงของลำดับ
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การหาพจน์ทั่วไปของลำดับ
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การหาพจน์ทั่วไปของลำดับโดยใช้ฟังก์ชันพหุนาม
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ลำดับเลขคณิต
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
33%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ลำดับเรขาคณิต
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
100%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
อนุกรม/อนุกรมเลขคณิต
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
อนุกรมเรขาคณิต
PAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
100%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ลิมิตของลำดับอนันต์
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย

ความหมายลำดับ

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

ความหมายลำดับ

MEDIUM

ความหมายลำดับ

HARD

ความหมายลำดับ

เนื้อหา

ลำดับ (Sequences)

ลำดับ

ลำดับ คือ สิ่งต่าง ๆ ที่นำมาจัดเรียงแบบมีความสัมพันธ์
ที่สืบเนื่องกัน

ตัวอย่าง 1 พิจารณาแบบรูปดังต่อไปนี้ 

จากแบบรูป พบว่า ลำดับของรูปและจำนวนจุดในรูป
มีความสัมพันธ์กันดังนี้

รูปที่12345
จำนวนจุด1361015

ดังนั้น รูปและจำนวนจุดในแต่ละรูป คือ ลำดับ เพราะรูปและจำนวนจุดในรูปถัดไปมีความสัมพันธ์กับรูปและจำนวนจุดในรูปก่อนหน้า หรืออาจกล่าวได้ว่า
ลำดับ คือ    ฟังก์ชันที่มีโดเมนคือ (ลำดับของรูป)
                และมีเรนจ์คือ (จำนวนจุดในแต่ละรูป)

ตัวอย่าง 2 พิจารณาเหตุการณ์ต่อไปนี้

” สถานีวิทยุแห่งหนึ่ง ให้ผู้ฟังรายการส่งข้อความสั้นๆ (SMS) มาที่รายการเพื่อตอบคำถามในแต่ละวัน ท่านแรกที่ตอบถูกจะได้รางวัลเป็นเงินรางวัล 100 บาท ถ้าไม่มีใครตอบถูก เงินรางวัลจะเพิ่มขึ้นในทุกๆ วันถัดไปอีก 100 บาท”

จำนวนวันและเงินรางวัลมีความสัมพันธ์กันดังนี้
วันที่          1      2      3    4      ... n ...

จำนวน    
เงินรางวัล  100  200  300  400   … 100 n … 
ที่ตอบถูก

จากความสัมพันธ์ข้างต้น พบว่า
จำนวนเงินรางวัลจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนวันที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นเหตุการณ์ข้างต้นเป็น ลำดับ
      มีโดเมน คือ {1,2,3,..}
      มีเรนจ์   คือ {100,200,300,...}

จากกแนวคิดดังกล่าวนี้ เราจะนำมานิยามลำดับได้
ดังบทนิยามต่อไปนี้

บทนิยาม ลำดับ (sequence) คือฟังก์ชันที่มีโดเมนเป็นเซตจำนวนเต็มบวกหรือสับเซตของจำนวนเต็มบวก

ถ้าลำดับที่มีโดเมนเป็นเซตจำกัด คือ {1,2,3,...,n}
จะเรียกว่า ลำดับจำกัด (finite sequence)

ถ้าลำดับที่มีโดเมนเป็นเซตของจำนวนเต็มบวก {1,2,3,...} จะเรียกว่า ลำดับอนันต์ (Infinite sequence)

ตัวอย่างที่ 3 จงพิจารณาฟังก์ชันต่อไปนี้

 f equals left curly bracket left parenthesis 1 comma 2 right parenthesis right curly bracket comma left parenthesis 2 comma 4 right parenthesis comma left parenthesis 3 comma 6 right parenthesis comma left parenthesis 4 comma 8 right parenthesis comma left parenthesis 5 comma 10 right parenthesis right curly bracket
โดเมนของฟังก์ชัน คือ left curly bracket 1 comma 2 comma 3 comma 4 comma 5 right curly bracket
เรนจ์ของฟังก์ชัน คือ left curly bracket 2 comma 4 comma 6 comma 8 comma 10 right curly bracket
ดังนั้น f เป็นลำดับจำกัด
ซึ่งมีลำดับเป็น 2 comma 4 comma 6 comma 8 comma 10
 f equals left curly bracket left parenthesis 1 comma 1 right parenthesis comma left parenthesis 2 comma 3 right parenthesis comma left parenthesis 3 comma 5 right parenthesis comma... comma left parenthesis n comma 2 n minus 1 right parenthesis comma... right curly bracket
โดเมนของฟังก์ชัน คือ left curly bracket 1 comma 2 comma 3 comma... comma n comma... right curly bracket
เรนจ์ของฟังก์ชัน คือ left curly bracket 1 comma 3 comma 5 comma... comma 2 n minus 1 comma... right curly bracket
ดังนั้น f เป็นลำดับอนันต์
ซึ่งมีลำดับเป็น 1 comma 3 comma 5 comma... comma 2 n minus 1 comma...

การเขียนลำดับ

ในการเขียนลำดับ จะเขียนเฉพาะสมาชิกของเรนจ์ ได้ 2 รูปแบบ ดังนี้

1. การเขียนลำดับในรูป

                  a subscript 1 comma a subscript 2 comma a subscript 3 comma... a subscript n comma...

เรียกว่า การเขียนลำดับแบบแจกแจงพจน์ จุด 3 จุด
แสดงว่า ลำดับนี้มีพจน์ต่อไปอีกอย่างไม่สิ้นสุด
เรียก     a subscript 1 ว่า พจน์ที่ 1 ของลำดับ 
           a subscript 2 ว่า พจน์ที่ 2 ของลำดับ
           a subscript 3 ว่า พจน์ที่ 3 ของลำดับ
            vertical ellipsis
           a subscript n ว่า พจน์ที่ n หรือพจน์ทั่วไป
                (General term) ของลำดับ

ตัวอย่าง 4

4.1  1 half comma 2 over 3 comma 3 over 4 comma 4 over 5
เป็นลำดับจำกัด ที่มี
            a subscript 1 equals 1 half ว่า พจน์ที่ 1 ของลำดับ
            a subscript 2 equals 2 over 3 ว่า พจน์ที่ 2 ของลำดับ
            a subscript 3 equals 3 over 4 ว่า พจน์ที่ 3 ของลำดับ
            a subscript 4 equals 4 over 5 ว่า พจน์ที่ 4 ของลำดับ
      และ พจน์ทั่วไป คือ  a subscript n equals fraction numerator n over denominator n plus 1 end fraction
4.2 negative 2 over 3 comma 3 over 9 comma negative 4 over 16 comma 5 over 25 comma... เป็นลำดับอนันต์ ที่มี
            a subscript 1 equals negative 2 over 3  ว่า พจน์ที่ 1 ของลำดับ
            a subscript 2 equals 3 over 9     ว่า พจน์ที่ 2 ของลำดับ
            a subscript 3 equals negative 4 over 27 ว่า พจน์ที่ 3 ของลำดับ
            a subscript 4 equals 5 over 81    ว่า พจน์ที่ 4 ของลำดับ
       และ พจน์ทั่วไป คือ a subscript n equals fraction numerator n plus 1 over denominator 3 to the power of n end fraction

2. การเขียนลำดับในรูป

    a subscript n equals f left parenthesis n right parenthesis เมื่อ แทนสมาชิกของจำนวนเต็มบวก

เรียกว่า การเขียนลำดับในรูปพจน์ทั่วไปพร้อมทั้งระบุสมาชิกในโดเมน ตัวอย่างเช่น

  • ลำดับ 1 half comma 2 over 3 comma 3 over 4 comma 4 over 5
    อาจจะเขียนแทนด้วย a subscript n equals fraction numerator n over denominator n plus 1 end fraction 
    เมื่อ n element of left curly bracket 1 comma 2 comma 3 comma 4 right curly bracket
  • ลำดับ negative 2 over 3 comma 3 over 9 comma negative 4 over 16 comma 5 over 25 comma...
    อาจจะเขียนแทนด้วย a subscript n space end subscript equals fraction numerator n plus 1 over denominator 3 to the power of n end fraction
    เมื่อ n แทนเซตของจำนวนเต็มบวก

หมายเหตุ ในกรณีที่กำหนดลำดับโดยพจน์ทั่วไป ถ้าไม่ได้ระบุสมาชิกในโดเมน ให้ถือว่าลำดับนั้นเป็นลำดับอนันต์

ตัวอย่าง

จงหาสี่พจน์แรกของลำดับ a subscript n equals 4 n plus 3
วิธีทำ    a subscript 1 equals 4 left parenthesis 1 right parenthesis plus 3 equals 7
          a subscript 2 equals 4 left parenthesis 2 right parenthesis plus 3 equals 11
          a subscript 3 equals 4 left parenthesis 3 right parenthesis plus 3 equals 15
          a subscript 4 equals 4 left parenthesis 4 right parenthesis plus 3 equals 19
ดังนั้น สี่พจน์แรกของลำดับนี้ คือ 7 comma 11 comma 15 comma 19