พยางค์และคำ

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

พยางค์และคำ (ชุดที่ ๑)

MEDIUM

พยางค์และคำ (ชุดที่ ๒)

HARD

พยางค์และคำ (ชุดที่ ๓)

เนื้อหา

พยางค์และคำ

พยางค์

คือ เสียงที่เปล่งออกมาแต่ละครั้งจะมีความหมายหรือไม่มีก็ได้ พยางค์ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำ เช่น

มด                 ๑ พยางค์      ๑ คำ
ประวัติศาสตร์     ๔ พยางค์      ๑ คำ
อนุสาวรีย์          ๕ พยางค์      ๑ คำ


ส่วนประกอบของพยางค์

พยางค์ประกอบด้วยส่วนประกอบอย่างน้อย ๓ ส่วน คือ

  • เสียงพยัญชนะ 
  • เสียงสระ 
  • เสียงวรรณยุกต์

การประกอบกันของพยางค์ 
เรียกว่า การประสมอักษร

มี ๔ แบบ ดังนี้

๑. การประสมสามส่วน  คือ การประกอบเสียงพยัญชนะต้น เสียงสระ และเสียงวรรณยุกต์ เช่น

        "ผ้า"  แยกส่วนประกอบได้เป็น       
             - /ผ/ เสียงพยัญชนะต้น (เดี่ยว)
             - เสียงสระ อา      
             - เสียงวรรณยุกต์ โท

๒. การประสมสี่ส่วน คือ การประกอบเสียงพยัญชนะต้น เสียงสระ เสียงพยัญชนะท้าย (ตัวสะกด) และเสียงวรรณยุกต์  เช่น

        "เปลือก"  แยกส่วนประกอบได้เป็น  
             - /ปล/ เสียงพยัญชนะต้น (ประสม)    
             - เสียงสระ เอือ   
             - เสียงพยัญชนะท้าย /ก/ แม่กก           
             - เสียงวรรณยุกต์ เอก

๓. การประสมสี่ส่วนพิเศษ คือ การประกอบเสียงพยัญชนะต้น เสียงสระ เสียงพยัญชนะท้าย ที่ไม่ออกเสียง (ตัวการันต์)  และเสียงวรรณยุกต์   เช่น

        "เล่ห์"   แยกส่วนประกอบได้เป็น    
             - /ล/ เสียงพยัญชนะต้น (เดี่ยว)
             - เสียงสระ เอ
             - ห  ตัวการันต์
             - เสียงวรรณยุกต์ โท

๔. การประสมห้าส่วน คือ การประกอบเสียงพยัญชนะต้น เสียงสระ เสียงพยัญชนะท้าย (ตัวสะกด) เสียงพยัญชนะท้ายที่ไม่ออกเสียง (ตัวการันต์)  และเสียงวรรณยุกต์ เช่น

        "จันทร์"  แยกส่วนประกอบได้เป็น  
             - /จ/ เสียงพยัญชนะต้น (เดี่ยว)
             - เสียงสระ อะ
             - /น/ เสียงพยัญชนะท้าย (แม่กน)
             - ทร  ตัวการันต์
             - เสียงวรรณยุกต์ สามัญ


ประเภทของพยางค์

     ๑. พยางค์เปิด หมายถึง พยางค์ที่ไม่มีเสียงพยัญชนะท้าย (เสียงตัวสะกด) เช่น ปู ม้า เสีย เป็นต้น

     ๒. พยางค์ปิด หมายถึง พยางค์ที่มีเสียงพยัญชนะท้าย และพยางค์ที่ประสมสระเสียงสั้นไม่มีตัวสะกด เช่น รำ ไม่ มืด จะ ก็ เป็นต้น

คำ

คือ เสียงที่เปล่งออกมาแล้วมีความหมาย อาจเปล่งเสียงได้มากกว่า ๑ ครั้ง กล่าวคือ ๑ คำ อาจมีหลายพยางค์ เช่น

เจรจา                        ๑ คำ    ๓ พยางค์
                                    /เจน-ระ-จา/

โรงพยาบาล                ๑ คำ    ๔ พยางค์
                                 /โรง-พะ-ยา-บาน/

อภิลักขิตสมัย               ๑ คำ    ๗ พยางค์
                            /อะ-พิ-ลัก-ขิด-ตะ-สะ-ไหม/

องค์ประกอบของคำ 

๑. เสียง  คำหนึ่งอาจมีเสียงเดียว (คำพยางค์เดียว) หรือหลายเสียงก็ได้ (คำหลายพยางค์)

๒. แบบสร้าง  คำหนึ่งจะประกอบด้วยพยางค์  ซึ่งอาจมีส่วนประกอบ ๓ ส่วน ๔ ส่วน ๔ ส่วนพิเศษ หรือ ๕ ส่วนก็ได้

๓. ความหมาย  คำเดียวกันอาจมีหลายความหมาย ขึ้นอยู่กับหน้าที่และบริบท เช่น  คำว่า “เทียม”

  • เป็นคำกริยา หมายถึง เอาสัตว์ผูกกับยานพาหนะ
    เช่น เทียมเกวียน  เทียมแอก เป็นต้น
  • เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง ทำให้เหมือนหรือคล้ายของจริง เช่น ดาวเทียม  ฝนเทียม  เป็นต้น
  • เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง เสมอกัน เท่ากัน
    เช่น สูงเทียมเมฆ เป็นต้น


คำเป็น-คำตาย

คำเป็น

คือ พยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงยาวไม่มีตัวสะกด หรือพยางค์ที่สะกดด้วยมาตรากง กน กม เกย เกอว และพยางค์ที่ประสมด้วยสระอำ ใอ ไอ เอา จำง่าย ๆ ว่า

“นมยวง ยาว จำใจไปเมา”
๑. สะกดด้วยมาตราแม่ กน  กม  เกย  เกอว  กง
    เช่น  ขาว  พอง  เลย
๒. ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา
    เช่น  นา  ซื้อ  งู
๓. ประสมด้วยสระ อำ  ใอ  ไอ  เอา 
    เช่น  ไม้  เรา  จำ

คำตาย

พยางค์ที่สะกดด้วยมาตรากก กด กบ และสระเสียงสั้น ไม่มีตัวสะกด ยกเว้น อำ ใอ ไอ เอา จำง่าย ๆ ว่า

“กบฏอายุสั้น”
๑. สะกดด้วยมาตราแม่ กก  กบ  กด
    เช่น ตาก  ศพ  โบสถ์
๒. ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา 
    เช่น  ประจุ  โต๊ะ  ระเกะระกะ


คำครุ-คำลหุ

คำครุ (คำหนัก)

คือ คำที่มีตัวสะกดทุกคำ ถ้าไม่มีตัวสะกดต้องประสมสระเสียงยาว รวมถึง อำ ไอ ใอ เอา
เช่น เสื้อผ้า รำคาญ ปรัชญา

คำลหุ (คำเบา)

คือ คำที่ไม่มีตัวสะกดและประสมสระเสียงสั้นเท่านั้น
เช่น ระอุ กระทะ สติ รวมถึง "ก็ บ่ ธ ณ"

ทีมผู้จัดทำ