
ประกอบด้วย อนุภาคมูลฐาน 3 ชนิด ได้แก่
อย่างที่เราทราบกันดีว่า นิวตรอนมีประจุเป็นกลาง โปรตอนมีประจุบวก ส่วนอิเล็กตรอนมีประจุลบ โดยที่โปรตอนและนิวตรอนจะอยู่บริเวณนิวเคลียสของอะตอม โดยมีอิเล็กตรอนเคลื่อนที่อยู่รอบ ๆ นิวเคลียส
ธาตุแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันเนื่องจาก อะตอมของธาตุแต่ละชนิดจะมีจำนวนโปรตอนเฉพาะตัวไม่ซ้ำกับธาตุอื่น ๆ จำนวนโปรตอนบ่งบอกถึง เลขอะตอม (Atomic number)
ดังนั้น ตารางธาตุในปัจจุบันได้มีการจัดเรียงตามเลขอะตอม เนื่องจากมวลของอิเล็กตรอนมีค่าน้อยกว่ามวลของโปรตอนมาก หรือมวลของโปรตอนจะมีค่าประมาณ 1,833 เท่าของมวลอิเล็กตรอน มวลของอะตอมส่วนใหญ่เกิดจากผลรวมของมวลนิวตรอน และโปรตอนรวมกัน เรียกว่า เลขมวล (Mass number)
เช่น
ไนโตรเจนมี 7 โปรตอนจึงมีเลขอะตอมเท่ากับ 7 ซึ่งอาจจะมีจำนวนนิวตรอนเท่ากับ 7 หรือ 8 นิวตรอนทำให้มีมวลเท่ากับ 14 หรือ 15 ตามลำดับ
เลขอะตอมและเลขมวลจะเขียนแสดงในสัญลักษณ์ทาง นิวเคลียร์ (Nuclear symbol)
วิธีสากล จะเขียนเลขอะตอมไว้ด้านล่างซ้าย และเลขมวลไว้ด้านบนขวาของเลขสัญลักษณ์นิวเคลียร์
เช่น
และ
![]()
ดังแสดงในรูปดังนี้
จะเห็นได้ว่าอะตอมของธาตุเดียวกันจะมีจำนวนนิวตรอนได้หลายค่า ทำให้มีมวลได้หลายค่า เราเรียกอะตอมของธาตุกลุ่มนี้ว่า ไอโซโทป (Isotope)
ธาตุแต่ละชนิดสามารถมีได้หลายไอโซโทป บางไอโซโทปก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติ บางไอโซโทปก็สังเคราะห์ขึ้น เช่น ไอโซโทปของไฮโดรเจน ได้แก่ โปรเทียม (, Protium) ดิวทีเรียม (
, Deuterium) และ ทริเทียม (
, Tritium) ในธรรมชาติ พบโปรเทียมถึงร้อยละ 99.99 สัญลักษณ์นิวเคลียสสามารถเขียนแบบย่อได้เช่น 1H, 2H และ 3H หรือ H-1 H-2 และ H-3
ตัวอย่าง
ธาตุไอโซโทปอื่น ๆ ได้แก่![]()
และ
ซึ่งในธรรมชาติจะพบ
และ
เป็นส่วนมาก
เราสามารถใช้ประโยชน์จากไอโซโทปของคาร์บอนในการหาอายุซากดึกดำบรรพ์ได้