โดยประจุของไอออนของธาตุหมู่หลักเป็นบวกตามจำนวนอิเล็กตรอนของไอออนเป็นไปตามกฎออกเตต
เช่น
โดยจะเขียนสัญลักษณ์ของธาตุที่เป็นไอออนบวกไว้ข้างหน้าตามด้วยไอออนลบและแสดงอัตราส่วนอย่างต่ำของไอออนที่เป็นองค์ประกอบโดยเขียนเลขอารบิกห้อยท้ายไอออนนั้น ทั้งนี้ในกรณีที่เป็นจำนวนไอออนเป็น 1 ไม่ต้องเขียน
เช่น
สารประกอบไอออนิกที่เกิดจากแคลเซียมไอออน (Ca2+) กับฟลูออไรด์ไอออน (F-) มีอัตราส่วนประจุของ Ca2+ ต่อ F- เป็น 1:2 ดังนั้น สูตรของสารประกอบเป็น CaF2
ตัวอย่าง
การเขียนสูตรสารปะกอบไอออนิกดังแสดงในรูป ซึ่งใช้ค่าของประจุบวกไปเขียนไว้ทางด้านล่างขวาของอนุภาคที่เป็นไอออนลบและใช้ค่าประจุลบไปเขียนไว้ทางด้านล่างขวาของอนุภาคที่เป็นไอออนบวก
ในกรณี ไอออนบางชนิดที่เกิดจากกลุ่มอะตอม การเขียนสูตรสารประกอบจะใช้หลักการเดียวกับไอออนบวกและไอออนลบที่เกิดจากธาตุ
เช่น
สูตรสารประกอบไอออนิกที่เกิดจากแอมโมเนียมไอออน (NH4+) กับซัลเฟตไออน (SO42-) มีอัตราส่วนประจุของประจุ NH4+ ต่อ SO42- เป็น 1 ต่อ 2 ซึ่งเมื่อทำให้ผลรวมของประจุเป็นศูนย์ จะได้อัตราส่วนอย่างต่ำของจำนวน NH4+ ต่อ SO42- เป็น 2:1 ดังนั้น สูตรสารประกอบเป็น (NH4)2SO4
ดังแสดงในรูป
โดยมีรายละเอียดดังนี้
เรียกตามชื่อธาตุแล้วลงท้ายด้วยคำว่า ไอออน
เช่น
เรียกชื่อธาตุโดยเปลี่ยนท้ายเสียงเป็น ไ-ด์ (-ide) แล้วลงท้ายด้วยคำว่า ไอออน
เช่น
จะมีชื่อเรียกเฉพาะ โดยกลุ่มอะตอมที่เป็นไอออนบวกลงท้ายด้วย -ium ส่วนกลุ่มอะตอมที่เป็นไอออนลบอาจลงท้ายด้วย ไ-ด์ (-ide) ไ-ต์ (-ite) หรือ เ-ต (-ate)
เช่น
การเรียกชื่อสารประกอบไอออนิก จะเรียก ไอออนบวกก่อนแล้วตามด้วยไอออนลบ โดยตัดคำว่าไอออนทิ้ง
ดังแสดงในตารางที่ 1 ส่วนการเรียกชื่อสารประกอบที่เกิดจากเลขออกซิเดชันมากกว่า 1 ค่า ต้องระบุตัวเลขประจุหรือเลขออกซิเดชันของไอออนโลหะนั้นเป็นเลขโรมันในวงเล็บ ดังตารางที่ 2
ตารางที่ 1 แสดงชื่อสารประกอบไอออนิกบางชนิด
ตารางที่ 2 ตัวอย่างชื่อสารประกอบไอออนิกที่เกิดจากโลหะที่มีเลขออกซิเดชันหลายค่า