Reading for main ideas
Reading for details
Looking for references and inferences
Organizational patterns for comparison and contrast essay
Organizational patterns for cause and effect essay
ยอดวิว 28.0k

แบบฝึกหัด

EASY

Using context clues (ชุดที่ 1)

MEDIUM

Using context clues (ชุดที่ 2)

HARD

Using context clues (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

CONTEXT CLUES

Context Clues คืออะไร?

Context clues คือ คำใบ้ (clues/hints) ที่ช่วยให้เราเดาหรือบอกความหมายของคำศัพท์ยาก ๆ ที่เราไม่รู้ หรือไม่แน่ใจได้นั่นเอง คำใบ้เหล่านั้นจะอยู่ในประโยคต่าง ๆ ที่เราอ่านในบทความนั้น ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ การเดาคำศัพท์จากบริบทนั่นเอง (เพราะเราไม่สามารถเปิด ditctionary เพื่อหาความหมายของคำที่เราติดขัดได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะในห้องสอบ!)

Context Clues มีกี่ประเภท?

ประเภทของ Contect Clues ที่พบบ่อยและเอาไปใช้ได้จริงในข้อสอบมีดังนี้

โจทย์มักจะถามหาความหมายของคำศัพท์ที่ทำตัวหนาหรือขีดเส้นใต้ แล้วบ่อยครั้งเราอาจไม่มั่นใจหรือไม่รู้เลยว่ามันหมายความว่าอะไร มาดูตัวอย่างการหาความหมายจากประโยคเพิ่มเติมกันดีกว่า

1. Definition (การให้ความหมาย)

Clues/Hints ที่ใบ้ว่าคือการให้ความหมายของคำศัพท์ยาก ๆ นั้นเช่น mean, refer to, be (is/are), define, be called เป็นต้น 

Example: 

A tsunami is a chain of fast moving waves caused by sudden trauma in the ocean.

'tsunami' เป็นคำศัพท์ยากที่เราไม่รู้ ดังนั้นให้สังเกตตัว Clue ที่ให้ความหมายของคำนี้ นั่นก็คือ 'is' เราจะรู้ว่า 'tsunami' (คือ) กลุ่มคลื่นน้ำที่เคลื่อนอย่างรวดเร็ว นั่นเอง (พยายามดู key word ในบริบทเพื่อจับความหมายหลัก ๆ)


2. Contrast (การเทียบบอกความแตกต่าง ตรงกันข้าม)

Clues/Hints ที่ใบ้ว่าคือการบอกความแตกต่างตรงข้ามกันของคำศัพท์หรือข้อมูลในประโยคนั้น ๆ...ก็คือคำเชื่อมต่าง ๆ เช่น but, even if, even though, although, while, whereas, however, nevertheless, conversely, on the contraryon the other hand, in contrast, in spite of, despite นั่นเอง 

Example: 

My grandpa is still robust while my grandma is weak. He takes care of himself every day!

อยากรู้ว่า 'robust' แปลว่าอะไร ให้สังเกตตัว clue ในประโยคนั่นก็คือ 'while' (ในขณะที่) เป็นตัวเชื่อมที่บอกข้อมูลที่ตรงกันข้ามกัน เมื่อดูจากบริบทจะพบว่า 'weak' แปลว่า อ่อนแอ ไม่แข็งแรง ดังนั้น 'robust' จึงมีความหมายตรงกันข้ามซึ่งแปลว่า แข็งแรง มีสุขภาพที่ดี นั่นเอง


3. Example (การยกตัวอย่าง)

Clues/Hints ที่ใบ้ว่าคือการยกตัวอย่างเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้เข้าใจคำศัพท์ยาก ๆ เช่น for example, for instance, such as, like นั่นเอง

Example: 

The shop specialises in citrus fruits, such as oranges, lemons, and pomelos.

'citrus fruits' คือผลไม้อะไร?? ให้เราสังเกตตัว clue ในประโยคที่ให้ตัวอย่างประกอบคือ 'such as' ซึ่งแปลว่า 'ยกตัวอย่างเช่น' เมื่อเราดูผลไม้ที่ยกตัวอย่างมา ไม่ว่าจะเป็น ส้ม มะนาว หรือส้มโอ ทำให้เราเดาได้ว่า citrus fruits คือ 'ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว' นั่นเอง


4. Explanation (การอธิบาย)

Clues/Hints ที่ใบ้ว่าคือการอธิบายหรือการกล่าวซ้ำของคำศัพท์ยาก ๆ หรือที่ไม่คุ้นเคยเช่น or, in other words, that is หรืออาจมาในรูปแบบของเครื่องหมาย (Punctuation) เช่น COMMAS (,), DASHES (-) หรือ BRACKETS ( (), {}, [] ) นั่นเอง

Example: 

He stretched the truth - in other words, what he said was somewhat true.

บางคนอาจไม่แน่ใจคำว่า 'stretch the truth' ไม่แน่ใจว่า สรุปแล้วเขาโกหกหรือพูดความจริงกันแน่? ให้เราสังเกตตัว clue ในประโยคคำว่า 'in other words' ซึ่งแปลว่า 'พูดอีกอย่าง/ พูดง่าย ๆ ก็คือ' เป็นวลีที่ใช้ขึ้นต้นเพื่ออธิบายหรือกล่าวซ้ำข้อมูลก่อนหน้าให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ดังนั้น เมื่อดูจากประโยค '...what he said was somewhat true.' แปลว่า สิ่งที่เขาพูดบางส่วนเป็นเรื่องจริง (พูดเกินจริงนั่นเอง)

Stretched the truth 
Stretch = ยืด,ขยาย      Truth = ความจริง
ดังนั้นเมื่อมารวมกัน จะมีความหมายในเชิงว่า "การยืดหรือขยายความจริง"
หรือคือ การพูดความจริงเพียงบางส่วน แต่แต่งเติมเสริมเรื่องให้เกินจริงไป

เช่น นักข่าว มักต้องแต่งเติมเสริมความจริงในข่าว เพื่อให้คนสนใจ
Reporters usually stretch the truth in order to make news interesting.