วิธีการดุลสมการรีดอกซ์
มี 2 วิธี คือ
- วิธีไอออน – อิเล็กตรอน
- วิธีเลขออกซิเดชัน
โดยจะแยกย่อยออกเป็นใน สารละลายกรด สารละลายเบส และสารละลายที่เป็นกลาง โดยเมื่อเป็นสารละลายกรดให้ดุลสมการ โดยการเติม H+ และเมื่อเป็นสารละลายเบสให้ดุลสมการ โดยการเติม OH-
ในปฏิกิริยา ดังนี้
1. วิธีไอออน – อิเล็กตรอน (จะแสดงเฉพาะในสารละลายกรด)
เริ่มจากการวิเคราะห์ปฏิกิริยา เพื่อระบุว่าองค์ประกอบใดเป็นตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดซ์ โดยพิจารณาค่าเลขออกซิเดชันที่เปลี่ยนแปลงไปขององค์ประกอบนั้นๆในปฏิกิริยา
BiO3- + Mn2+ + H+
MnO4- + Bi3+ + H2 Oจากปฏิกิริยา พบว่า Bi มีเลขออกซิเดชันเปลี่ยนไปจาก +5 ลดลงเหลือ +3
ดังนั้น เกิดปฏิกิริยารีดักชัน โดย BiO3- เป็นตัวถูกรีดิวซ์ หรือตัวออกซิไดซ์ของปฏิกิริยา
เมื่อพิจารณา Mn พบว่า มีเลขออกซิเดชันเปลี่ยนไปจาก +2 เพิ่มขึ้นเป็น +7
ดังนั้น เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน โดย Mn2+ เป็นตัวถูกออกซิไดซ์ หรือตัวรีดิวซ์ของปฏิกิริยา
แยกปฏิกิริยารีดอกซ์ออกเป็นครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน และดุลจำนวนประจุโดยการเติมอิเล็คตรอน (e-)
ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน : Mn2+ à MnO4- + 5e-
(Mn ใน MnO4- มีเลขออกซิเดชัน +7 จึงต้องเติม 5e- เพื่อให้มีเลขออกซิเดชันเป็น +2 เท่ากับประจุของ Mn2+)
ครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน : BiO3- + 2e-
Bi3+
(Bi ใน BiO3- มีเลขออกซิเดชัน +5 จึงต้องเติม 2e- เพื่อให้มีเลขออกซิเดชันเป็น +3 เท่ากับประจุของ Bi3+)
ดุลอะตอมของ O โดยเติม H2O และดุล H โดยการเติม H+ (ถ้ากรณีเบส จะดุลโดยการเติม H2O และOH-)
ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน : Mn2+ + 4H2O
MnO4- + 5e- + 8H+
ครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน : BiO3- + 2e- + 6H+
Bi3+ + 3H2O
ทำจำนวนอิเล็กตรอนของทั้งสองครึ่งปฏิกิริยาให้เท่ากัน โดยการ x2 ปฏิกิริยาออกซิเดชัน และ x5 ปฏิกิริยารีดักชัน จะได้ปฏิกิริยา
ดังแสดง
ครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน : 2Mn2+ + 8H2O
2MnO4- + 10e- + 16H+
ครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน : 5BiO3- + 10e- + 30H+
5Bi3+ + 15H2O
รวมสองครึ่งปฏิกิริยา จะได้ปฏิกิริยาที่ผ่านการดุลสมการแล้ว
ดังนี้
5BiO3- + 2Mn2+ + 14H+
2MnO4- + 5Bi3+ + 7H2O2. วิธีเลขออกซิเดชัน (จะแสดงเฉพาะในสารละลายเบส)
วิเคราะห์ปฏิกิริยา และคำนวณหาเลขออกซิเดชันที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าองค์ประกอบหรือธาตุใดมีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้นจะทำหน้าเป็นตัวรีดิวซ์ และถ้าเลขออกซิเดชันลดลงจะทำหน้าที่เป็นตัวออกซิไดซ์
Zn + MnO4-
Zn2+ + MnO2จากปฏิกิริยาข้างต้น พบว่า Zn มีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้น จาก 0 เป็น +2 และ Mn ใน MnO4- มีเลขออกซิเดชันลดลงจาก +7 เป็น +4 ใน MnO2
ดังนั้น Zn ทำหน้าที่เป็นตัวรีดิวซ์ และ Mn ใน MnO4- ทำหน้าที่เป็นตัวออกซิไดซ์ของปฏิกิริยา
ทำเลขออกซิเดชันที่เพิ่มขึ้น และลดลงให้เท่ากัน โดยเขียนเลขออกซิเดชันที่เพิ่มขึ้นไว้ข้างหน้าตัวออกซิไดซ์ และเลขออกซิเดชันที่ลดลงไว้หน้าตัวรีดิวซ์
ดังนี้
3Zn + 2MnO4-
Zn2+ + MnO2จากนั้น ทำการดุลสมการ โดยดุลเฉพาะตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชัน ซึ่งในกรณีนี้ คือ Zn และ Mn เพื่อให้ Zn มี 3 อะตอม และ Zn2+ มี 3 อะตอม
เช่นเดียวกัน
3Zn + 2MnO4-
3Zn2+ + 2MnO2จากนั้น พิจารณาประจุขององค์ประกอบหรือธาตุทั้งหมด และดุลประจุรวมทางซ้ายและทางขวาของปฏิกิริยาให้เท่ากัน โดยเติม H2O และ OH- จะได้ปฏิกิริยาที่ดุลแล้ว (ถ้ากรณีกรด จะดุลโดยการเติม H2O และ H+)
3Zn + 2MnO4- + 4H2O
3Zn2+ + 2MnO2 + 8OH-3. สำหรับกรณีที่สารละลายเป็นกลาง
ซึ่งจะไม่มี H+ และ OH- อยู่ในปฏิกิริยา ให้ทำการดุลปฏิกิริยา
ดังนี้
- หาครึ่งปฏิกิริยาทั้ง 2 ก่อน
- ในแต่ละครึ่งปฏิกิริยาทำอะตอมของธาตุด้านซ้ายให้เท่ากันด้านขวา
- ดุลประจุของแต่ละครึ่งปฏิกิริยาให้เท่ากันด้วยการเติมอิเล็คตรอน
- ทำอิเล็คตรอนทั้ง 2 ครึ่งปฏิกิริยาให้เท่ากัน แล้วนำสมการทั้งสองมาบวกกัน จะได้สมการรีดอกซ์