สมการที่ 1
ตัวอย่างเช่น
กระบวนการหายใจและแลกเปลี่ยนแก๊สออกซิเจนในระบบหมุนเวียนเลือด ในภาวะปกติขณะที่พักผ่อน ผู้ชายจะใช้ออกซิเจนประมาณ 250 มิลลิลิตรต่อนาที และมีความต้องการมากขึ้นเมื่อทำกิจกรรมที่ออกแรงหรือออกกำลังกายที่ต้องใช้พลังงาน ในระบบหมุนเวียนเลือด แก๊สออกซิเจน () จะรวมตัวกับฮีโมโกลบิน (Hb) ซึ่งเป็นโปรตีนในเม็ดเลือดแดง กลายเป็นสารประกอบ ออกซีฮีโมโกลบิน (Hb
)
ขณะที่หายใจเข้า จะผ่านหลอดลมและเข้าสู่ถุงลมปอด ความดันของ
ในถุงลมปอดจะมากกว่าความดันในเส้นเลือดฝอย ส่งผลให้
จากถุงลมปอดแพร่จากปอดสู่เส้นเลือดฝอย และรวมตัวกับ Hb
เมื่อร่างกายต้องการพลังงานจะทำการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคส () ดังสมการ
การเผาผลาญกลูโคสนี้ต้องการ ในปฏิกิริยา ดังนั้นจึงเกิดสมดุลย้อนกลับของสมการที่ 1 เพื่อปล่อย
มาใช้เป็นสารตั้งต้นในสมการที่ 2 กระบวนการในสมการที่ 1 นี้ จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้าและปฏิกิริยาย้อนกลับเท่ากัน
หลังจากนั้นร่างกายจำกัด ออกจากเลือด ตามสมดุลนี้
(g) ในปอด
![]()
(aq) ในเลือด
ตัวอย่างเช่น
วัฏจักรคาร์บอน อะตอมของคาร์บอนมีบทบาทสำคัญในธรรมชาติ ทั้งในสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต สารประกอบคาร์บอนจะมีการหมุนเวียนกลับสู่บรรยากาศและแหล่งน้ำได้โดยกระบวนการหายใจ (ดังแสดงในสมการที่ 1 และ 2) การเผาไหม้และการเน่าเปื่อย เมื่อ ถูกปล่อยออกมาในบรรยากาศ บางส่วนจะคงอยู่ในบรรยากาศ บางส่วนจะคงอยู่ในแหล่งน้ำ มหาสมุทรหรือละลายในน้ำฝนแล้วซึมลงดิน ปริมาณแก๊ส
ในบรรยากาศกับในแหล่งน้ำบนพื้นโลกจะอยู่ในภาวะสมดุลกัน
ดังนั้น การเพิ่มปริมาณ ในบรรยากาศจะมีผลให้เกิดการละลายของ
ลงในแหล่งน้ำมากขึ้น เพื่อลดผลของการรบกวนสมดุลตามหลักเลอชาเตอลิเอ ซึ่งในที่สุดระบบจะปรับเข้าสู่สมดุลใหม่ การละลายน้ำของแก๊ส
เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำในธรรมชาติมีสภาพเป็นกรด
ซึ่งปัจจุบัน ในบรรยากาศมีปริมาณเพิ่มขึ้น เพราะว่า มีการเผาไหม้เชื้อเพลิงจำนวนมากในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม การขับเคลื่อนยานพาหนะที่ใช้สัญจร รวมทั้งการทำลายป่ามีผลทำให้ฝนตกลงมีความเป็นกรดเพิ่มมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
อุตสาหกรรมการผลิตแก๊สฟอสจีน (COC) เพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นในการเตรียมพลาสติกชนิดพอลิคาร์บอเนต ซึ่งมีสมบัติแข็งและใส่ ทนความร้อนได้ดี นิยมนำมาใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ขวดนมเด็ก ฝาครอบโคมไฟ นอกจากนี้ยังใช้แก๊สฟอสจีนในการผลิตสารกำจัดแมลง สีย้อม และยา
การเตรียมแก๊สฟอสจีนเริ่มต้นจากปฏิกิริยาระหว่างแก๊สคลอรีนกับแก๊สคาร์บอนมอนอกไซค์
ปฏิกิริยานี้เป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน โดยทั่วไปจะให้แก๊สทั้งสองชนิดนี้ทำปฏิกิริยากันที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส และที่ความดันสูง เพื่อให้สมดุลดำเนินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องจะได้ปริมาณผลิตภัณฑ์ COC มากกว่าทำที่อุณหภูมิและความดันต่ำ โดยมีผงถ่านเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่ออัตราการปฏิกิริยาเร็วขึ้น ทำให้การผลิตเสร็จอย่างรวดเร็ว เสียเวลาน้อย