การย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

การย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์ (ชุดที่ 1)

HARD

การย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์ (ชุดที่ 2)

เนื้อหา

การย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและของสัตว์

การย่อยอาหารของราและแบคทีเรีย  

รามีผนังเซลล์  จึงไม่สามารถนำสารโมเลกุลใหญ่เข้าสู่เซลล์ได้  การย่อยอาหารจึงเป็นการย่อยภายนอกเซลล์ (Extracellular  digestion)  โดยส่งน้ำย่อยหรือเอนไซม์ออกมาย่อยสารโมเลกุลใหญ่ การย่อยเช่นเดียวกันกับแบคทีเรีย

การย่อยอาหารของโพรโตซัว

อะมีบาและพารามีเซียมแตกต่างกันด้วยวิธีการนำอาหารเข้าสู่เซลล์ โดยพารามีเซียมจะใช้ซีเลียที่บริเวณร่องปากโบกพัดอาหารเข้าสู่เซลล์
ส่วนอะมีบาสามารถเคลื่อน protoplasm  ได้อย่างยืดหยุ่นจึงนำอาหารเข้าสู่เซลล์โดยวิธีโอบล้อมอาหาร แล้วฟาโกไซโทซิสและพิโนไซโทซิส แล้วมีการย่อยอาหารเหมือนกันใน food vacuoles โดยการหลั่งเอนไซม์จากไลโซโซม

การย่อยอาหารของสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง

การย่อยอาหารของสัตว์ที่ไม่มีทางเดินอาหาร เช่น ฟองน้ำ โดยจะมีเซลล์เฉพาะ
a) collar cells  (ปลอกคอ) หรือ chanocytes มี flagellum ยื่นออกมาโบกพัดและใช้ย่อยอาหารพวกแบคทีเรียและสารอินทรีย์ขนาดไม่เกิน 1 ไมโครเมตร
b) amoebcyte (เซลล์คล้ายอะมีบา)
ใช้ย่อยอาหาร ขนาด  5-50 ไมโครเมตร

การย่อยอาหารของสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์
        หมายถึงสัตว์ที่มีช่องรับและขับถ่ายอาหารเพียงช่องเดียว ได้แก่

a) ไฮดรา มีช่องว่างในลำตัว (gastrovascular cavity) และ nutritive cells ในการช่วยย่อยอาหารโดยมีการย่อยทั้งภายนอกและภายในเซลล์
b) พลานาเรีย มีช่องปากให้อาหารเข้า
และขับถ่ายกากอาหารที่ย่อยไม่ได้เป็นช่องเดียวกัน และมีคอหอย (pharynx) คล้ายงวงขนาดเล็กยื่นออกมาดูดอาหาร อาหารจะถูกลำเลียงไปตามช่องที่แตกแขนงไปสองข้างลำตัว

การย่อยอาหารของสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์
      หมายถึงสัตว์ที่มีช่องรับอาหาร และขับถ่ายกากอาหาร  2 รู จากปลายคนละด้าน คือมีปากและทวารหนัก รับส่วนต่างๆในทางเดินอาหารเริ่มมีการทำหน้าที่เฉพาะอย่าง

ไส้เดือนดินและสัตว์ขาปล้อง มีปากหลากหลายแบบขึ้นอยู่กับชนิดอาหารที่ทานและอาจมีอวัยวะช่วยย่อยอาหารที่เพิ่มขึ้น เช่นมีต่อมน้ำลายและต่อมสร้างเอนไซม์ เช่น จิ้งหรีด ส่วนไส้เดือนดินจะมี gizzard หรือ กึ๋น ช่วยในการบดอาหาร

การย่อยอาหารของสัตว์มีกระดูกสันหลัง

            การย่อยอาหารในสัตว์มี 2 วิธีคือ

a) การย่อยเชิงกล  คือการใช้แรงทำให้อาหารมีขนาดเล็กลงโดยที่องค์ประกอบทางเคมีของอาหารไม่เปลี่ยนแปลงเช่น การบีบตัวของทางเดินอาหาร และการบดเคี้ยวของฟัน
b) การย่อยทางเคมี คือการใช้ปฏิกิริยาเคมีทำให้อาหารมีขนาดเล็กลงโดยองค์ประกอบทางเคมีของอาหารเปลี่ยนแปลงไป


การย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น สัตว์มีกระดูกสันหลัง ที่ทานพืชเป็นหลัก  แต่สัตว์ไม่มีน้ำย่อยเซลลูโลสจึงมีระบบกระเพาะอาหาร เพื่อช่วยในการย่อยเซลล์จากพืช ตัวอย่างเช่น วัว ควาย เริ่มการย่อยเชิงกล ที่ปาก เคี้ยวเอื้อง กลืน และหมักบดอาหาร ในบางส่วนของกระเพาะอาหาร

กระเพาะอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องมี 4 ส่วน เรียกว่า

1) รูเมน เป็นพื้นที่เพื่อหมักอาหาร โดยมีจุลินทรีย์และแบคทีเรีย ที่ช่วยย่อยเซลลูโลส รวมทั้งสังเคราะห์วิตามิน B12 กรดอะมิโน ยูเรีย รวมไปถึงแอมโมเนียที่เกิดจากการหมัก

2) เรติคิวลัม ทำหน้าที่บดและผสมอาหาร

3) โอมาซัม  ทำหน้าที่บดแล้วผสมอาหาร

4) อะโบมาซัม ทำหน้าที่หลั่งเอนไซม์ออกมาย่อยอาหาร

ลำไส้เล็ก ทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมสารอาหารได้มากที่สุด จากนั้นอาหาร จะเตรียมตัวไปที่ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก


จุดสังเกต ข้อแตกต่างของสัตว์เคี้ยวเอื้องจากการย่อยของสัตว์มีกระดูกสันหลังอื่นๆ คือ มีการหมักอาหารและช่วยย่อยโดยแบคทีเรียที่รูเมน เรติคิวลัมและโอมาซัม
เป็นบริเวณที่มีการย่อยเชิงกล ส่วนอะโบมาซัม
เป็นบริเวณเดียวที่มีการหลั่งเอนไซม์

ทีมผู้จัดทำ