กล้องจุลทรรศน์เป็นเครื่องมือที่สำคัญและจำเป็นในการขยายภาพสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สามารถแบ่งได้ 2 ชนิด คือ
1. กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง (แบบธรรมดา และแบบเชิงประกอบ)
2. กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Transmission Electron Microscope, Scanning Electron Microscope)
ฐาน วางติดกับโต๊ะ
แขน ยึดลำกล้องกับส่วนฐาน
ลำกล้อง มีเลนส์ใกล้ตาติด
แผ่นหมุน มีเลนส์ใกล้วัตถุติด
เลนส์ใกล้วัตถุ x4, x10, x40 หรือ x100 เป็นต้น
เลนส์ใกล้ตา x5, x10 หรือ x15 เป็นต้น
วงล้อปรับภาพ ปรับระยะห่างระหว่างวัตถุกับเลนส์ใกล้วัตถุ
แท่นวางวัตถุ
คอนเดนเซอร์ รวมแสงให้มีความเข้มมากที่สุด
ไอริสไดอะแฟรม ม่านปรับรูเปิดเพื่อให้แสงผ่าน
แหล่งกำเนิดแสง
1. โปรคาริโอติดเซลล์ (ไม่มีนิวเคลียส) ตัวอย่างเช่น แบคทีเรีย เป็นต้น
รูปที่ 1 โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์โปรคาริโอต
https://biochemix.wordpress.com/page/2/
2. ยูคาริโอติกเซลล์ (มีนิวเคลียส มีออร์แกแนลล์หลายอย่าง) เช่น เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
รูปที่ 2 โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์พืช
https://biochemix.wordpress.com/page/2/
รูปที่ 3 โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สัตว์
https://sites.google.com/a/asu.edu/the-almighty-cell/
ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 3 ส่วน ดังนี้
1.1 เยื่อหุ้มเซลล์ มีโครงสร้างประกอบด้วยชั้นไขมันเรียงตัวกัน 2 ชั้น ประกอบด้วยด้านที่ชอบน้ำและไม่ชอบน้ำ ทำหน้าที่ห่อหุ้มเซลล์และป้องกันอันตราย มีคุณสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่าน เป็นต้น
1.2 ผนังเซลล์ เป็นโครงสร้างประกอบด้วยสายพอลิแซ็กคาไรด์ ทำหน้าที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ ทำให้เซลล์คงรูปร่างได้ พบในเซลล์ของพืช โดยผนังเซลล์จะอยู่ด้านนอกสุด
2.1 เยื่อหุ้มนิวเคลียส เยื่อหุ้ม 2 ชั้นที่ห่อหุ้มนิวเคลียส มีช่องเล็ก ๆ ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของสารระหว่างนิวเคลียสและไซโทพลาซึม
2.4 นิวคลีโอลัส เป็นกลุ่มของเส้นใยที่ขดเป็นก้อนกลมฝังตัวในเนื้อนิวเคลียส ไม่มีเยื่อหุ้ม
2.3 โครมาทิน คือ สาย DNA ที่พันรอบโปรตีน ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
3.1 เอนโดพลาสมิกเรติคูลัม มี 2 แบบ คือ
เอนโดพลาสมิกเรติคูลัมแบบผิวขรุขระ มีไรโบโซมเกาะที่ผิวด้านนอก พบได้ในเซลล์ทุกชนิด หน้าที่สังเคราะห์โปรตีนและส่งโปรตีน
เอนโดพลาสมิกเรติคูลัมแบบผิวเรียบ มีเยื่อหุ้มชั้นเดียวไม่มีไรโบโซมมาเกาะ สังเคราะห์สารพวกลิพิด ทำลายสารพิษที่เข้าสู่เซลล์
3.3 กอลจิคอมเพล็กซ์ มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว เป็นถุงแบน ๆ วางซ้อน ๆ กัน ทำหน้าที่รวบรวมสาร ทำให้เข้มข้น และเติมคาร์โบไฮเดรตให้กับโปรตีนหรือลิพิดที่ส่งมาจากเอนโดพลาสมิกเรติคูลัม
3.4 ไลโซโซม มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว มีลักษณะเป็นถุง ภายในบรรจุเอนไซม์หลายชนิด ทำหน้าที่ย่อยอาหารและส่วนประกอบของเซลล์ที่เซลล์ไม่ต้องการ
3.5 แวคิลโอล เป็นถุงที่มีเยื่อหุ้มแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามรูปร่างและหน้าที่ได้ ดังนี้
คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล ทำหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำ
ฟูดแวคิวโอล ทำหน้าที่บรรจุอาหารเพื่อย่อยสลาย
แซบแวคิวโอล ทำหน้าที่สะสมหยดไขมัน
3.6 ไมโคคอนเดรีย มีขนาดใหญ่ มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น พบได้ในเซลล์ทุกชนิดที่ใช้ออกซิเจน เป็นแหล่งพลังงาน
3.7 พลาสทิด ประกอบด้วย คลอโรพลาสต์ มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น พบเฉพาะในพืชและแบคทีเรียบางชนิด เกิดกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงบริเวณนี้
3.8 เพอร็อคซิโซม เป็นถุงที่บรรจุ เอนไซม์ออกซิไดซ์ หน้าที่ทำลาย H2O2 ที่เกิดขึ้นในเพอโรซิโซม โดยเปลี่ยนเป็น H2O ด้วยเอนไซม์แคตาเลส
3.9 เซนทริโอล ไม่มีเยื่อหุ้ม ประกอบด้วยไมโครทิวบูลเรียงกัน 9 กลุ่ม กลุ่มละ 3 หลอด เป็นแกนของเซนโทรโซมซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเส้นใยสปินเดิล
3.10 ไซโทสเกเลตอน เป็นร่างแหตาข่ายของเส้นใยโปรตีนที่แผ่ขยายปกคลุมอยู่ทั่วไซโทพลาซึม ทำหน้าที่คงรูปร่างของเซลล์ ประกอบด้วย
ไมโครฟิลาเมนต์ เป็นเส้นใยขนาดบาง ประกอบด้วยโปรตีนก้อนกลม (แอคทิน) ช่วยรักษารูปร่างของเซลล์ในการหดตัว มีบทบาทในการเคลื่อนที่แบบอะมีบา
ไมโครทิวบูล เป็นแท่งกลวง เกิดจากก้อนโปรตีนทิวบูลินเรียงต่อกัน ช่วยยึดและลำเลียง ออร์แกเนลล์ เป็นเส้นใยสปินเดิล
อินเตอร์มีเดียทฟิลาเมนต์ เส้นใยโปรตีนที่มีขนาดใหญ่กว่าไมโครฟิลาเมนต์ แต่เล็กกว่าไมโครทูบูลประกอบด้วยโปรตีนอยู่ในกลุ่มเคอราติน ช่วยยึดออร์แกเนลล์ ช่วยรักษารูปร่างของเซลล์