เคมีอินทรีย์
สารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสามในชีวิตประจำวัน
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
33%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
สูตรโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
33%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
วิเคราะห์โครงสร้าง และระบุประเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมู่ฟังก์ชัน
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
สูตรโครงสร้างและเรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ตามระบบ IUPAC
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
33%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
100%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
วิเคราะห์ และเปรียบเทียบสมบัติของสารประกอบอินทรีย์
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
33%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ปฏิกิริยาของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน (1)
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
33%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
33%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ปฏิกิริยาของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน (2)
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
33%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
สืบค้นข้อมูลการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
100%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย

สืบค้นข้อมูลการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

สืบค้นข้อมูลการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม

MEDIUM

สืบค้นข้อมูลการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม

HARD

สืบค้นข้อมูลการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม

เนื้อหา

ตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมและอันตรายของสารเคมี

แอลกอฮอล์ (alcohol)

1. เมทานอล (methanol) หรือแอลกอฮอล์จากไม้ (wood alcohol)

ได้จาก การกลั่นสลายไม้ หรือสังเคราะห์จากแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และแก๊สไฮโดรเจน (H2) ที่อุณหภูมิและความดันสูง (350-400OC, 300 lb/in2) และมีตัวเร่งปฏิกิริยาเป็น ZnO หรือ Cr2O3

  • ประโยชน์ของเมทานอล คือ ใช้เป็นตัวทำละลาย ใช้เป็นเชื้อเพลิง ใช้ในอุตสาหกรรมทำสี  ใช้เป็นสารป้องกันการแข็งตัวของน้ำในหม้อน้ำรถยนต์ในประเทศที่มีอากาศหนาว   
  • โทษของเมทานอล คือ เมื่อรับประทาน สูดดม หรือซึมเข้าสู่ผิวหนัง อาจทำให้ตาบอด หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต

2. เอทานอล (ethanol)

ได้จากการหมักแป้งหรือน้ำตาลโดยใช้ยีสต์

  • ประโยชน์ของเอทานอล คือ ใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมทำสี ทำยา ทำน้ำหอม น้ำมันชักเงา ใช้ทำสุราชนิดต่าง ๆ เบียร์ ไวน์ สารละลายเอทานอลเข้มข้น 70% ใช้ฆ่าเชื้อโรค ฯลฯ

ฟีนอล (phenol)

1. ฟีนอล (phenol)

เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลาสติกบางชนิด ใช้ทำยา สีย้อม ยาฆ่าเชื้อโรค

รวมทั้งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารหลายชนิด เช่น สารกันหืน butylated hydroxyl toluene (BHT) และ butylated hydroxyl anisole (BHA)

2. สารประกอบฟีนอลบางชนิดพบในธรรมชาติ

เป็นน้ำมันหอมระเหย เช่น ยูจีนอลในกานพลู


อีเทอร์ (ether)

1. อีเทอร์

นิยมใช้เป็นตัวทำละลายเพื่อละลายสารอินทรีย์ ในปฏิกิริยาเคมีสังเคราะห์ โดยเฉพาะไดเอทิลอีเทอร์ (diethyl ether)

นอกจากนั้น ไดเอทิลอีเทอร์ ยังใช้เป็น ยาสลบในการผ่าตัด


แอลดีไฮด์ (aldehyde) และคีโตน (ketone)

1. เมทานาล (methanal) หรือฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde)

สามารถเตรียมได้จากเมทานอล (methanol) เมื่อละลายเมทานาลในน้ำได้สารละลายฟอร์มาลิน (formalin) ที่ความเข้มข้น 40%

  • ประโยชน์ของฟอร์มาลดีไฮด์ คือ ามารถใช้ดองพืชและสัตว์ ฆ่าเชื้อบนเครื่องมือผ่าตัด ใช้ฉีดศพเพื่อรักษาสภาพไม่ให้เน่าเปื่อย  
    นอกจากนั้นยังใช้ฆ่าเชื้อโรคและแมลง ใช้ผลิตพลาสติกพาราฟอร์มาลดีไฮด์ และใช้ร่วมกับฟีนอลได้พลาสติกเบกาไลด์  ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารอื่น เช่น กรดฟอร์มิก (formic acid)   
  • โทษของฟอร์มาลดีไฮด์ คือ ทำให้ระบบหายใจและหลอดลมอักเสบ เมื่อสูดดมเข้าไป ถ้าเข้าตา จะทำให้เยื่อตาอักเสบและเป็นอันตรายต่อผิวหนัง

2. เอทานาล (ethanal) หรือแอซีทาลดีไฮด์ (acetaldehyde)

เตรียมจากปฏิกิริยาไฮโดรไลซิลของอีไทน์ (ethyne) โดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาเป็น H2SO4/HgSO4 และปฏิกิริยาระหว่างเอทานอลและออกซิเจน โดยใช้โลหะเงิน (Ag) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา   

เอทานาลใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารอื่น เช่น กรดแอซิติก (acetic acid) แอซีติกแอนไฮไดรด์ (acetic anhydride)

3. โพรพาโนน (propanone) หรือแอซีโตน (acetone)

เตรียมจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของแอลกอฮอล์ 2-propanol กับตัวออกซิไดซ์ เช่น โพแทสเซียมไดโครเมต (K2Cr2O7) อะซิโตนใช้เป็นตัวทำละลายในน้ำมันเงา (vanish) แลกเกอร์ ไฟเบอร์ และพลาสติก ช่วยทำให้เครื่องแก้วแห้งเร็วเนื่องจากจุดเดือดต่ำ ใช้ทำพลาสติกลูไซต์ ฯลฯ    

  • โทษของแอซีโตน คือ ถ้าสูดดมไอของสารนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดอาการมึนงง และหมดสติ

กรดคาร์บอกซิลิก (carboxylic acid)

1. กรดฟอร์มิก (formic acid) หรือกรดมด

พบได้ในมด แมลง และผึ้ง ใช้ในการแยกยางออกจากน้ำยาง ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารอื่น ๆ 
กรดฟอร์มิกเตรียมจากแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ที่อุณหภูมิและความดันสูง (200 OC, 100 lb/in2)

2. กรดอะซีติก (acetic acid) หรือกรดน้ำส้ม

ใช้สารละลายกรดอะซีติกเข้มข้นร้อยละ 4-5 เป็นน้ำส้มสายชูสำหรับปรุงอาหาร  ใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารอื่น เช่น cellulose acetate ใช้ทำไหมเทียมและฟิล์มถ่ายรูป   
นอกจากนั้นยังใช้ผลิตสีทาบ้าน สีย้อมผ้า ทำพลาสติก ยาแอสไพริน ฯลฯ เกลือของตะกั่ว lead acetate ใช้เป็นยาสมานฝาด


เอสเทอร์ (ester)

        เอสเทอร์ พบมากในธรรมชาติในรูปของผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์ เช่น น้ำหอม ดอกไม้ เป็นต้น โดยกลิ่นหอมของพืชและสัตว์ส่วนใหญ่เป็นกลิ่นของเอสเทอร์ จึงนิยมใช้เป็นสารแต่งกลิ่นในอาหารและใช้ทำน้ำหอม เอสเทอร์ใช้เป็นตัวทำละลายในการทำแลกเกอร์ น้ำมันขัดเงา เป็นต้น

ตัวอย่างของเอสเทอร์ที่นำมาใช้ประโยชน์ ได้แก่ เอทิลอะซีเตด (ethyl acetate) ใช้ทำน้ำยาล้างเล็บ แอสไพริน (อะซีติลซาลิซิลิก, acetyl salicylic acid)

มีหมู่ฟังก์ชันหนึ่งเป็นเอสเทอร์ในโครงสร้าง ใช้เป็นยาแก้ไข้แก้ปวด น้ำมันระกำ (เมทิลซาลิไซเลต, methyl salicylate) ซึ่งมีหมู่ฟังก์ชันหนึ่งเป็นเอสเทอร์ในโครงสร้าง ใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  นอกจากนั้นเอสเทอร์ยังใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเส้นใยสังเคราะห์

เอสเทอร์สามารถเตรียมได้จากปฏิกิริยาต่าง ๆ เช่น จากปฏิกิริยาระหว่างกรดคาร์บอกซิลิกและแอลกอฮอล์


เอมีน (amine)

1. นิโคติน (nicotine)

เป็นสารเสพติด ที่พบในยาสูบ ทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น เป็นแอลคาลอยด์ (alkaloid) ในพืช

2. แอมเฟตามีน (amphetamine)

เป็นเอมีนสังเคราะห์ มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง ใช้เป็นส่วนผสมในยาอี ยาบ้า ยาไอซ์

3. เฮกซะเมทิลีนไดเอมีน (hexamethylene diamine)

ใช้ทำเส้นใยสังเคราะห์


เอไมด์ (amide)

ยูเรีย (urea) เป็นเอไมด์ที่พบในปัสสาวะของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการย่อยโปรตีน  ใช้ทำปุ๋ย ทำเรซินประเภทพอลิยูเรียฟอร์มาลดีไฮด์ และทำยา

ยูเรียสังเคราะห์ ได้จาก แอมโมเนียมไซยาเนต (ammonium cyanate) และในอุตสาหกรรมสังเคราะห์จากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และแก๊สแอมโมเนีย (NH3) ภายใต้อุณหภูมิและความดันสูง (180-200OC, 2800-3000 lb/in2)


สารอินทรีย์ที่มีหลายหมู่ฟังก์ชัน

1. มอร์ฟีน (morphine)

สกัดจากดอกฝิ่น ใช้เป็นยาระงับความเจ็บปวด [แอลคาลอยด์ (alkaloid) ในพืช]

2. ควินิน (quinine)

สกัดจากเปลือกต้นซินโคนา ใช้รักษาโรคมาเลเรีย [แอลคาลอยด์ (alkaloid) ในพืช]

3. โคเคน (cocaine)

พบในใบโคลา ใช้เป็นยาชาที่ผิวหนัง ใช้เป็นยาสลบ [แอลคาลอยด์ (alkaloid) ในพืช]

4. คาเฟอีน (caffeine)

ในกาแฟ ใช้เป็นยากระตุ้นการเต้นของหัวใจ และระบบประสาทส่วนกลาง [แอลคาลอยด์ (alkaloid) ในพืช]

5. โคดิอีน (codeine)

สกัดจากดอกฝิ่น ใช้เป็นส่วนประกอบในยาแก้ไอ มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง

6. อะดรีนาลีน (adrenaline)

เป็นฮอร์โมนที่พบในร่างกาย เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่ม ซึ่งร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนนี้ออกมาเพื่อตอบสนองปฏิกิริยาของร่างกายเมื่ออยู่ในเหตุการณ์อันตรายสำหรับการดำเนินกิจกรรมที่รวดเร็วและใช้กำลังมาก

นอกจากนั้นยังมี อะดรีนาลีนสังเคราะห์ หรือที่เรียกว่า เอพิเนฟริน (Epinephrine) ซึ่งนำมาใช้รักษาภาวะ Anaphylaxis ซึ่งเป็นอาการแพ้รุนแรงเฉียบพลัน หรือใช้ในระหว่างการผ่าตัดตาและรักษาผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น

7. พาราเซตามอล (paracetamol) หรืออะเซตามิโนเฟน (acetaminophen)

และรู้จักกันในชื่อทางการค้าคือ ไทลินนอล (Tylenol), พารามอล (Paramol), ซีมอล (Cemol), พานาดอล (Panadol), พาราแคพ (Paracap), ซาร่า (Sara), เทมปร้า (Tempra) และอื่นๆ ใช้ผสมในยาบรรเทาอาการปวดและลดไข้

8. วานิลา (vanilla)

ในเมล็ดวานิลา ซินนามาลดีไฮด์ (cinnamaldehyde) ในอบเชย ใช้เป็นสารปรุงแต่งรสและกลิ่นอาหาร