ตรรกศาสตร์เบื้องต้น
ประพจน์ ประโยคเปิดและตารางค่าความจริง
PAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การเชื่อมด้วย "และ" "หรือ"
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การเชื่อมด้วย "ถ้า แล้ว" "ก็ต่อเมื่อ"
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
33%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
นิเสธของประพจน์
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ความสมมูลกันของประพจน์
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
ประพจน์ที่มีตัวบ่งปริมาณ
PAT
ออกสอบ
33%
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
67%
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
สัจนิรันดร์
PAT
ออกสอบ
น้อย
O-NET
ออกสอบ
น้อย
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย
การอ้างเหตุผล
PAT
ออกสอบ
67%
O-NET
ออกสอบ
67%
วิชาสามัญ
ออกสอบ
น้อย
A-LEVEL
ออกสอบ
น้อย

สัจนิรันดร์

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

สัจนิรันดร์ (ชุดที่ 1)

MEDIUM

สัจนิรันดร์ (ชุดที่ 2)

HARD

สัจนิรันดร์ (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

สัจนิรันดร์

ตอนนี้เราสามารถสร้างและพิจารณาประพจน์เชิงประกอบได้หลากหลายและซับซ้อนมาก และในหลายๆ ปัญหา สิ่งที่เราสนใจคือค่าความจริงของประพจน์ เช่น

พิจารณาตารางค่าความจริงของประพจน์ tilde(prightwards arrowq)left right arrow(plogical andtildeq) ได้ดังนี้
rhoTTFF
qTFTF
tilde qFTFT
p rightwards arrow qTFTT
tilde left parenthesis p rightwards arrow q right parenthesisFTFF
p logical and tilde qFTFF
q right parenthesis left right arrow left parenthesis p logical and tilde q right parenthesisTTTT

เห็นได้ว่าค่าความจริงเป็นจริงทุกกรณี หรือประพจน์ที่ไม่ซับซ้อน เช่น

9 เป็นจำนวนคู่หรือ 9 เป็นจำนวนคี่ สามารถพิจารณาตารางค่าความจริงได้ดังนี้

p

~p

plogical ortildeq

T

F

T

F

T

T

ได้ว่าค่าความจริงเป็นจริงทุกกรณี ซึ่งตรงกับการแปลความหมายเบื้องต้นของประพจน์ว่า ไม่ว่า 9 จะเป็นจำนวนคู่หรือคี่ ประโยคนี้ก็จะเป็นจริง ประพจน์แบบนี้มีข้อดีคือ เราไม่ต้องพิจารณาตารางค่าความจริงและสรุปได้เลยว่าค่าความจริงของประพจน์เป็นจริง และในกรณีข้างต้น อาจเขียนแทน plogical ortildeq ด้วย T

  • ลักษณะของประพจน์ที่มีค่าความจริงทุกกรณีเช่นนี้ เรียกว่า สัจนิรันดร์
  • ในทำนองเดียวกัน ถ้าทุกกรณีในตารางค่าความจริงเป็นเท็จ อาจเขียนแทนด้วย F

การตรวจสอบประพจน์ว่าเป็นสัจนิรันดร์หรือไม่

สามารถใช้การสมมูลกันของประพจน์ในการพิจารณา เช่น 

((prightwards arrowq)logical and(tildeq))rightwards arrowtildep
identical totilde((tildeplogical orq)logical and(tildeq))logical or(tildep)
identical to(plogical and(tildeq))logical orqlogical or(tildep)
identical to(plogical orqlogical or(tildep))logical and((tildeq)logical orqlogical or(tildep))
identical toTlogical andT
identical toT

ดังนั้น ประพจน์นี้เป็นสัจนิรันดร์

วิธีข้างต้นจะสรุปได้เฉพาะประพจน์ที่มีค่าความจริงเป็นจริงทุกกรณีหรือเป็นเท็จทุกกรณีเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าการเชื่อมประพจน์เป็นแบบ “ถ้า แล้ว” สามารถใช้วิธีการหาข้อขัดแย้งในการตรวจสอบความเป็นสัจนิรันด์ได้ ซึ่งทำได้โดยสมมติให้ประพจน์ที่พิจารณาเป็นเท็จ ซึ่งตัวเชื่อม “ถ้า แล้ว” จะเป็นเท็จได้กรณีเดียวคือ เหตุเป็นจริง ผลเป็นเท็จ ดังนั้นเราจึงพิจารณาย้อนกลับเพื่อดูค่าความจริงของแต่ละประพจน์ย่อยหรือประพจน์เชิงเดียว ถ้ามีประพจน์ย่อยที่มีค่าความจริงทั้งจริงและเท็จในกรณีเดียวที่เรากำลังพิจารณานี้ แสดงว่าเกิดข้อขัดแย้งที่สมมติให้ประพจน์เป็นเท็จ ดังนั้นประพจน์นี้ต้องเป็นจริง ไม่ว่าประพจน์ย่อยจะมีค่าความจริงเป็นอย่างไร


การพิจารณาข้างต้นทำให้ได้กรณีค่าความจริงของประพจน์ p และ q ที่ทำให้ประพจน์ที่พิจารณาเป็นเท็จได้ ดังนั้นประพจน์นี้ไม่เป็นสัจนิรันดร์


ตัวอย่างนี้ได้ว่าประพจน์ q มีค่าความจริงทั้งเท็จและจริงในกรณีที่สมมตินี้ ซึ่งทำให้เกิดข้อขัดแย้ง ดังนั้นการสมมติให้ประพจน์ที่พิจารณาเป็นเท็จนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ สรุปว่าประพจน์นี้เป็นสัจนิรันดร์