แสงเชิงเรขาคณิต: กระจก เลนส์และการมองเห็น (4)

ยอดวิว 0

แบบฝึกหัด

EASY

แสงเชิงเรขาคณิต: กระจก เลนส์และการมองเห็น (4) (ชุดที่ 1)

MEDIUM

แสงเชิงเรขาคณิต: กระจก เลนส์และการมองเห็น (4) (ชุดที่ 2)

HARD

แสงเชิงเรขาคณิต: กระจก เลนส์และการมองเห็น (4) (ชุดที่ 3)

เนื้อหา

การมองเห็นแสงสี

เมื่อให้แสงสีขาวตกกระทบวัตถุต่าง ๆ เราจะเห็นวัตถุมีสีแตกต่างกัน การมองเห็นสีต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับ เซลล์รูปกรวยในเรตินาของตา ซึ่งมี 3 ชนิดคือ

  1. ชนิดที่ไวต่อแสงสีน้ำเงิน
  2. ชนิดที่ไวต่อแสงสีเขียว
  3. ชนิดที่ไวต่อแสงสีแดง

เมื่อแสงสีใดสีหนึ่งเข้าตา เซลล์นั้นจะถูกกระตุ้นและส่งไปยังสมอง เช่น

  • ถ้าเห็นสีแดงแสดงว่าเซลล์ที่ไวต่อแสงสีแดงได้รับการกระตุ้น
  • ถ้าเห็นแสงสีเหลืองแสดงว่าเซลล์รูปกรวยที่ไวต่อแสงสีแดงและสีเขียวได้รับการกระตุ้น ทำให้เกิดการรวมสีแล้วกลายเป็นสีเหลืองนั้นเอง

แผ่นกรองแสง (filter)

เมื่อแสงผ่านแผ่นกรองแสงสี แสงสีที่ผ่านออกมาจากแผ่นกรองจะมีเฉพาะแสงที่มีสีเดียวกับแผ่นกรองแสงสีนั้นผ่านเท่านั้น แผ่นกรองจะดูดกลืนแสงความยาวคลื่นอื่นทั้งหมดที่อยู่ในแสงขาวไว้

การผสมสารสี

สารสีหรือวัตถุใดๆ ที่มีสีมีคุณสมบัติในการดูดกลืนแสงสีเมื่อมีแสงขาวมากระทบ แล้วจะสะท้อนแสงสีที่เหลือมาเข้าตา เราจึงมองเห็นเป็นสีที่สะท้อนมาเข้าตา

สารสีแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

  1. สารสีปฐมภูมิ (primary color) เป็นสารสีที่ไม่อาจจะสร้างขึ้นมาได้จากการผสมสารสีต่าง ๆ ได้แก่ สีฟ้า สีชมพู และเหลือง
  2. สารสีที่ได้จากการผสมสารสีปฐมภูมิ 2 สี เรียกว่า
    สารสีทุติยภูมิ ซึ่งขึ้นอยู่กับการผสมกันระหว่างสารสีปฐมภูมิ 2 สี ในอัตราส่วนที่ต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดของสี

การผสมแสงสี

แสงสี แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ

  1. แสงสีปฐมภูมิ (primary color light) ได้แก่ แสงสีแดง แสงสีเขียว และแสงสีน้ำเงิน 
  2. แสงสีทุติยภูมิ เป็นแสงสีอื่นที่เกิดจากการผสมกันของแสงสีปฐมภูมิ ส่วนแสงสีอื่นเป็นการผสมกันระหว่างแสงสีปฐมภูมิ 2 สี ในอัตราส่วนที่ต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดของสี

เมื่อแสงสีกระทบกับวัตถุการรวมกันของสีจะรวมกันแบบการผสมสารสี การผสมแสงสีและการผสมสารสีสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น

  • ด้านศิลปะ
  • ด้านการแสดง
  • การถ่ายรูป
  • การประยุกต์นำมาใช้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ในการทำจอโทรศัพท์ จอคอมพิวเตอร์ 

ตาบอดสี

ตาบอดสี หรือที่เรียกว่า colour blindness เกิดขึ้นจากเซลล์รูปกรวยมีความบกพร่องหรือพิการ ทำให้ดวงตาไม่สามารถที่จะมองเห็นสีบางสีได้ ตาบอดสีมีหลายชนิด ชนิดที่ทุกคนรู้จักโดยทั่วไปได้แก่ ตาบอดสีที่มองสีเขียวกับสีแดงไม่เห็น (Red – Green blindness) ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถแยกสีแดงกับสีเขียวจากสีอื่น ๆ ได้

เดิมเซลล์รับแสงสีของเรามี 3 สีได้แก่ น้ำเงิน เขียว และแดง

  • หากเป็นโรคตาบอดสีแดง หมายความว่าเซลล์รับแสงสีแดงผิดปกติหรือเสื่อมสภาพ ทำให้ไม่สามารถเห็นแสงสีแดงได้
  • โทนสีใหม่ที่คนตาบอดสีเห็นจะใช้หลักการการผสมกันของแสงสี จากรูปการผสมกันของแสงสี (a)
    • คนตาบอดสีแดงจะมองเห็นสีแดงค่อนไปทางสีเหลือง เห็นสีน้ำเงินปกติหรือค่อนไปทางชมพู เห็นสีเขียวปกติหรืออาจค่อนไปทางสีเหลือง
    • หากตาบอดสีน้ำเงินจะเห็นสีน้ำเงินค่อนไปทางสีฟ้า เห็นสีเขียวปกติหรืออาจค่อนมาสีฟ้า เห็นสีแดงปกติหรืออาจค่อนมาทางสีชมพู