การแทรกสอดของแสง
ผ่านสลิตคู่
ในปี ค.ศ 1984 Thomas Young ได้ทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าแสงมีคุณสมบัติความเป็นคลื่น ซึ่งมีคุณสมบัติในการแทรกสอด (interference) และการเลี้ยวเบน (diffraction) ได้เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับคลื่นเสียงรวมถึงคลื่นในน้ำ
โดยในการทดลองนั้นได้มีการออกแบบการทดลองไว้ดังภาพ ในบทนี้เราจะพิจารณาการแทรกสอดของแสงผ่านช่องเปิดคู่หรือสลิตคู่ (double slit)
สมมุติว่าแสงที่ผ่านเข้ามา (incident wave) เป็นแสงสีเดียว (monochromatic light) เคลื่อนที่ผ่านสลิตตัวแรก ที่ตำแหน่ง จะเกิดการเลี้ยวเบน ไปเจอกับสลิตคู่อีก 2 ตัวคือ และ ที่ตำแหน่ง แสงที่ผ่านสลิตทั้ง 2 สลิตนี้เปรียบเสมือนแหล่งกำเนิดเคลื่อนสองแหล่งกำเนิด เมื่อคลื่นเกิดการแผ่ออกไปจากสลิตคู่นี้จะมาซ้อนทับกันที่ฉากรับภาพ (ตำแหน่ง C) - ถ้าคลื่นแสงเกิดการแทรกสอดเสริมกัน (constructive interference) จะปรากฏเป็นแถบสว่าง
- หากคลื่นเกิดการแทรกสอดแบบหักล้างกัน (destructive interference) จะปรากฏเป็นแถบมืด
ตัวอย่าง ภาพของการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่แสดงดังภาพด้านล่าง
ในการวิเคราะห์การแทรกสอดของแสงเราจะพิจารณาตามไดอะแกรมดังภาพด้านล่างนี้สามารถคำนวณหาตำแหน่งของแถบมืดและแถบสว่างบนฉากรับได้ตามสมการของการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่
- แถบสว่าง คือ เมื่อ n=1,2,3,...
- แถบมืด คือ เมื่อ n=1,2,3,...
- โดยที่
หมายถึง ระยะห่างระหว่างสลิต (ช่องแคบ)
ทั้ง 2 ช่อง
หมายถึง ระยะห่างระหว่างแถบสว่างกลางไปจนถึง
แถบมืดหรือแถบสว่างที่เราสนใจ (จุดP)
หมายถึง ระยะห่างระหว่างสลิตไปถึงฉากที่รับภาพ
คือ มุมระหว่างแกนกลางกับเส้นที่ลากไปถึงแถบมืด
หรือแถบสว่างที่เราสนใจ (จุด P)
แสดงถึงตำแหน่งของแถบสว่างเช่น
n=1 หมายถึงแถบสว่างที่ 1
หมายถึงความยาวคลื่นชองแสงที่สนใจ
ในบางกรณีระยะห่างของแถบสว่างหรือแถบมืดใดๆ จากแถบสว่างกลาง ระยะ x มีค่าน้อยกว่าระยะ D มากๆ ดังนั้นมุม θ จึงมีค่าน้อยมาก จนสามารถประมาณได้ว่า
ดังนั้นจะได้สมการของการแทรกสอดของแสงจากสลิตคู่สามารถเขียนใหม่ได้เป็น
- แถบสว่าง คือ เมื่อ n=1,2,3,...
- แถบมืด คือ เมื่อ n=1,2,3,...
การหาระยะห่างระหว่างแถบสว่าง 2 แถบที่ติดกัน หรือแถบมืด 2 แถบที่ติดกัน (∆x) จะมีระยะห่างเท่ากัน สามารถหาได้จาก
การคำนวนการซ้อนทับกันของแสงสว่างบนฉาก
ถ้าฉายแสงที่มีความยาวคลื่นสองค่าเป็น และ ผ่านสลิตคู่ซึ่งมีระยะห่างระหว่างสลิตเป็น และไปแทรกสอดกันบนฉากซึ่งห่างออกไปเป็นระยะ แล้ว แถบสว่างที่เกิดจากการแทรกสอดของแสง และแถบสว่างที่เกิดจากการแทรกสอดของแสง ที่ปรากฏบนฉากจะมีโอกาสทับกันได้ ตำแหน่งนั้นแถบสว่างจากแสงทั้งสองบนฉาก จะต้องเบี่ยงเบนไปจากแนวสว่างกลางเป็นมุมเท่ากัน หรือห่างจากแนวสว่างกลางเป็นระยะห่างเท่ากันถ้าให้แถบสว่างที่ ของแสง ทับอยู่กับแถบสว่างที่ ของแสง จะได้ว่า
- แถบสว่างของแสง ;
- แถบสว่างของแสง ;
จากสมการ (1) และ (2) เนื่องจากมุม θ หรือระยะ x เท่ากันจะได้