สมบัติการแจกแจง
สมบัติการแจกแจงแสดงความสัมพันธ์ระหว่างการบวกและการคูณ สมบัตินี้มีประโยชน์ในการใช้คูณพหุนาม สมบัติดังกล่าวกล่าวว่า
a(b+c)=ab+ac
กล่าวคือหากเราต้องการคูณจำนวนเข้าไปในผลบวก เราจะคูณหรือแจกแจงจำนวนนั้นเข้าไปในแต่ละจำนวนที่อยู่ในผลบวกนั้น เช่น 2(3+5) = 2(3)+2(5)
จากสมบัติการสลับที่การคูณ เราสามารถเขียนสมบัติข้างต้นได้ว่า
b(a+c)=ba+ca
สังเกตว่าเราสามารถมองการลบเป็นการบวกด้วยผลคูณของ -1 เราจึงได้ว่า
a(b-c)=a(b+(-1)c)=ab+(-1)ac=ab-ac
เราสามารถมองสมบัติดังกล่าวเป็นภาพโดยใช้พื้นที่รูปสี่เหลี่ยม
สมบัติดังกล่าวมีประโยชน์ในการใช้คูณพหุนาม ตัวอย่างเช่น (a+b)(c+d) สามารถคูณได้ดังนี้
(a+b)(c+d) =(a+b)c +(a+b)d = ac+bc+ad+bd
สังเกตว่าเราได้ใช้สมบัติการแจกแจง 2 ครั้ง เราสามารถมองว่าเราจับคู่คูณโดยจับคู่จำนวนในวงเล็บแรกกับจำนวนในวงเล็บหลังในทุกรูปแบบที่เป็นไปได้แล้วบวกผลทั้งหมดที่ได้เข้าด้วยกัน ดังแสดงในภาพด้านล่าง
หรือเราอาจมองเปป็นภาพได้ดังนี้
ตัวอย่างข้างต้นถือว่าเพียงพอแล้วในการศึกษาภาคตัดกรวย แต่หากนักเรียนสนใจอาจลองฝึกการคูณพหุนามจากตัวอย่างด้านล่างซึ่งจะมีประโยชน์ในการศึกษาเนื้อหาบทอื่น
ทฤษฎีบททวินาม (binomial theorem) ก็มีแนวคิดมาจากหลักการคูณพหุนามข้างต้น
(a+b+c)(d+e+f)
(a+b)(c+d)(e+f) (นักเรียนสามารถคูณสองวงเล็บแรกก่อนแล้วจึงคูณวงเล็บสุดท้าย หรือนักเรียนอาจใช้วิธีจับกลุ่มสามโดยสมาชิกแต่ละตัวในกลุ่มมาจากแต่ละวงเล็บ)
เฉลยเป็นรูปด้านล่าง
สมการกำลังสอง 2 ตัวแปร (x และ y) คือสมการในรูป
โดยที่ A,B,C,D,E,F เป็นตัวเลขค่าคงที่(ซึ่งเราจะเรียกว่าสัมประสิทธิ์) สังเกตว่าถ้าสัมประสิทธิตัวใดเป็น 0 เทอมนั้นจะหายไป
สังเกตว่าในแต่ละเทอมผลรวมของกำลังของตัวแปร x และ y จะไม่เกิน 2
ตัวอย่างสมการกำลังสอง 2 ตัวแปร ,
การจัดรูปกำลังสมบูรณ์ การจัดรูปแบบกำลังสองสมบูรณ์มีประโยชน์ในการจัดรูปแบบสมการกำลังสองให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐานและง่ายต่อการวิเคราะห์ การจัดรูปกำลังสมบูรณ์คือการเขียนพหุนามกำลังสองให้อยู่ในรูปของกำลังสองของพหุนามกำลังหนึ่ง นั่นคือ
โดยที่ a,h,k เป็นค่าคงที่ (1)
การจัดรูปกำลังสมบูรณ์ ใช้แนวคิดจากเอกลักษณ์ต่อไปนี้ซึ่งสามารถแสดงโดยสมบัติการแจกแจง หรือจากการแทนค่า y=h/2 ในสูตร
(2)
ขั้นตอนการจัดรูปกำลังสองสมบูรณ์ กระทำได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้ วิธีนี้ใช้ได้กับสมการกำลังสองทุกอัน
ตัวอย่าง เขียน ให้อยู่ในรูปกำลังสองสมบูรณ์ มีขั้นตอนดังนี้
ค่า a ในสูตร (1) จึงมีค่าเท่ากับ 2 นั่นเองและพหุนามในวงเล็บมีสัมประสิทธิของ เป็น พหุนามในวงเล็บคือพหุนามที่เราจะพิจารณาในขั้นตอนถัดไป
2. ดูสัมประสิทธิ์ของ x ในที่นี้คือ 7 (สัมประสิทธิ์นี้คือค่า h ในสมการ (2) นั่นเอง )
เราต้องการค่า เพื่อให้เราเขียนเป็นกำลังสองสมบูรณ์ได้ตามสูตร (2) เราจึงคำนวณ ในที่นี้คือ แต่เมื่อเราบวกเข้าด้วย แล้วเราก็ต้องลบออกชดเชยเพื่อให้ค่าไม่เปลี่ยน (เทคนิคการบวกเข้าและลบออก)
เราจะจัดกลุ่มจำนวนดังกล่าวเป็นสองส่วนดังนี้
เทอมสีน้ำเงินเป็นส่วนที่เราจะเก็บไว้ในวงเล็บและจะทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์โดยสมการ (2) ส่วนเทอมสีแดงเราจะแยกออกมาจากวงเล็บโดยต้องไม่ลืม 2 ที่คูณอยู่ด้านหน้า
กระบวนการจัดรูปกำลังสองสมบูรณ์จึงเสร็จสิ้นสมบูรณ์
สรุปการจัดกำลังสองสมบูรณ์ (เป็นการสรุปขั้นตอน ไม่จำเป็นต้องท่องจำ เพียงแต่หัดทำตามตัวอย่างขั้นต้นและทำแบบฝีกหัดบ่อยๆ ก็จะจำและทำได้เอง)
1.แยก a (สัมประสิทธิ์ของ x2 ) ออกมาข้างนอกวงเล็บ
2.ดูสัมประสิทธิ์ของ x (ในที่นี้คือ b/a) หารสัมประสิทธิ์นั้นด้วย 2 แล้วยกกำลังสอง (ในที่นี้คือ (b/2a)2 =b2/4a2 บวกเข้าและลบออกด้วยจำนวนที่ได้นี้
3. แยกส่วนที่เราลบออก (คือ ) และส่วนที่เป็นค่าคงที่ของสมการ (คือ ) ออกมานอกวงเล็บ
ส่วนที่อยู่ในวงเล็บเราสามารถจัดเป็นรูปกำลังสอง ส่วนส่วนที่อยู่นอกวงเล็บจะเป็นค่าคงที่
ซึ่งอยู่ในรูป a(x-h)2+k ตามต้องการ
ในการศึกษาภาคตัดกรวย เราจะทำกำลังสองสมบูรณ์ในตัวแปร x และ y แต่ในกรณีนี้เราสามารถทำแยกในส่วนของตัวแปร x และส่วนของตัวแปร y โดยใช้เทคนิคข้างต้น
ตัวอย่าง
ซึ่งเมื่อนักเรียนได้ศึกษาในแต่ละหัวข้อในวิชาภาคตัดกรวยก็จะได้มีโอกาสฝึกและใช้เทคนิคดังกล่าวนี้
การแก้สมการกำลังสอง
ในหัวข้อนี้เราจะทบทวนกาแก้สมการกำลังสองโดยวิธีการจัดรูปเป็นกำลังสองสมบูรณ์ ซึ่งมีประโยชน์ในการจัดรูปสมการกำลังสองให้แก้ง่ายขึ้น สมการกำลังสองคือสมการในรูป
เราทำกระบวนการจัดรูปกำลังสองสมบูรณ์ตามกระบวนการที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ขั้นแรกเราดึงตัวร่วม a ออกมา
เนื่องจากเราสนใจในกรณีที่่ (ถ้า เป็นศูนย์ สมการของเราจะไม่ใช่สมการกำลังสอง) เราจึงสมารถหารด้วย ทั้งสองข้าง
จากกระบวนการจัดรูปกำลังสองสมบูรณ์ที่กล่าวไว้ข้างต้น เราดูสัมประสิทธิ์ของ x นั่นคือ b/a เราบวกเช้าและลบออกด้วย เราจึงได้ว่า
ย้ายเทอมที่อยู่ไม่อยู่ในวงเล็บไปฝั่งขวา ส่วนที่อยู่ในวงเล็บเราเขียนเป็นกำลังสองได้
ถอดรากที่สองทั้งสองข้าง อย่าลืมว่าเมื่อถอดรากที่สองเราจะได้สองรากคือรากบวกและรากลบ
เราจีงได้สูตรสำหรับการหาค่า x
จากสูตรนี้เราจึงได้ข้อสังเกตเกี่ยวกับจำนวนคำตอบของสมการข้างต้นดังนี้
ตัวอย่าง จงหาค่า k ที่ทำให้กราฟของสมการ และ มีจุดตัดกันเพียงจุดเดียว
แนวคิด หากกราฟทั้งสองตัดกันที่จุดตัด (a,b) เราจะได้ว่า (a,b) ต้องอยู่บนกราฟทั้งสองอันและสอดคล้องกับทั้งสองสมการ เราจึงได้ว่า และ เราจึงได้ว่า
จัดรูปจะได้ว่า
จากข้อสังเกตข้างต้น สมการนี้จะมีรากรากเดียวก็ต่อเมื่อ เมื่อแก้สมการจะได้ว่า
สำหรับสมการกำลังสามและสมการกำลังสี่ เราก็มีกระบวนการสูตรที่จะใช้หารากคล้ายๆกับสูตรข้างต้นแต่กระบวนการจะยุ่งยากกว่ามาก อย่างไรก็ตาม นักคณิตศาสตร์ชื่อ Galois ได้พิสูจน์ว่าไม่มีสูตรดังกล่าวสำหรับสมการกำลังห้าขึ้นไป ตัวอย่างเช่น สมการ Galois ได้เสียชีวิตจากการดวลปืนเมื่ออายุเพียง 20 ปี